จากกรณี นางพิน อายุ 67 ปีชาวบ้านใน ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ตัดสินใจจบชีวิตในบ้านตัวเอง หลังลูกสาวและญาติๆ เชื่อว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน 367,500 บาท โดยผู้เสียชีวิตทั้งหยิบยืมเพื่อนบ้านและนำบ้านไปจำนอง ทำให้เกิดความเครียด สุดท้ายตำรวจพบว่า ลูกชายเป็นคนโทรมาให้แม่โอนเงินไปให้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันลูกชายที่ทำงานอยู่ไต้หวัน บอกว่าจะบินมาบวชหน้าไฟและร่วมงานศ_แม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดช่วงบ่ายวันที่ 25 มิ.ย.65 ญาติๆ และชาวบ้านได้เคลื่อนศ_ นางพิน ไปยังเมรุเพื่อทำพิธีฌาปนกิจ ท่ามกลางความเสียใจของญาติๆ โดยตอนนี้ชาวบ้านเชื่อแล้วว่า ลูกชายผู้เสียชีวิตสั่งให้แม่โอนเงินหลายแสนบาท จนแม่เครียดจบชีวิตดังกล่าว บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าทั้งลูกสาวและญาติต่างพากันร้องไห้ระงมไปทั่ว ขณะที่ช่วงพิธีฌาปนกิจ ลูกสาวของ นางพิน ถึงกับเป็นลมฟุบลงไป ชาวบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ส่วนลูกชายที่บอกจะกลับมานั้น ก็ไม่พบแต่อย่างใด

ขณะที่ นายอั๋น อายุ 65 ปี พ่อของสามเณรบวชหน้าไฟ เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วครอบครัวตนรู้จักผู้เสียชีวิตมานาน ตั้งแต่ตนเรียนอยู่ ม.2 การที่ให้ลูกบวชหน้าไฟให้เพราะครอบครัวเรานับถือกันเป็นญาติ และเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ผู้ตายเคยเลี้ยงดูเราและลูกเราตั้งแต่เล็ก เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น ด้าน ด.ช.พล อายุ 14 ปี เณรบวชหน้าไฟ กล่าวสั้นๆ ว่า การที่บวชหน้าไฟให้ยายก็เพื่ออยากจะให้ยายไปสู่สุขติและมีความสุข