สมจิตร จงจอหอ ภรรยาป่วยหนักถึงขั้นสั่งเสียกันแล้ว

สมจิตร จงจอหอ ภรรยาป่วยหนักถึงขั้นสั่งเสียกันแล้ว

เรียกได้ว่าหลายๆคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะเขาเป็นนักมวยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หากย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว สมจิตร จงจอหอ ได้ ควงภรรยาสาว อุ๋ม ศศิธร" และลูกๆ น้องกำปั้น และ น้องจันทร์เจ้า มาเปิดใจครั้งแรกหลังภรรยาตรวจพบว่าป่วยเป็นโรพุ่มพวง หรือแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)โดย สมจิตร จงจอหอบอกเลยว่าทำให้ภรรยาเดินไม่ได้ เพราะอยู่ๆ นน.ก็พรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แถมอาการหนักถึงขั้นสั่งเสีย ซึ่งภรรยาเผยว่า เป็นโร_ที่ภูมิตัวเองไปทำลา ย ภูมิตัวเอง ครั้งแรกที่เกิดขึ้นคือมันมีก้อนตรงคอเรามันใหญ่ขึ้นมา

เราก็ไปหาคุณหมอ คุณหมอกลัวจะเป็นมะเร็_เลยเจาะน้ำตรงก้อนคอไปตรวจหาก็ไม่พบ คุณหมอก็หาใหม่อีกก็เจาะเลือ_ไปตรวจอีก แล้วมันไม่หาย เราเป็นก้อนก็ปวดตามข้อ มีผื่นคันตามตัว ปวดข้อจนกระทั่งแขนขาไม่มีแรงเลย โดยตัวก้อนนั้นไม่เจ็บเลย แต่ว่ามันโตขึ้นเรื่อยๆ แต่มาเจ็บตามแขน ตามขา เจ็บเหมือนโดนเข็มทิ่มเราตลอดเวลา จนเราหยิบจับของไม่ได้ แขนเราไม่มีแรง"

ด้าน "สมจิตร จงจอหอ" ก็บอกว่า "อยู่บ้านตลอดตอนเขาป่วย ก็ยังอำเขาเล่นเลยว่าคางเขาทูม สวย ขายยังไง ขายไหม เขาก็บอกว่าไม่ขายเก็บไว้กินเอง อำไปอำมาก็เลยพาไปหาหมอ ตี 3 ลุกขึ้นมาปวดแบบคนมาบิดกระดูกเขา เราก็นึกไม่ออกว่าความเจ็บปวดเขาขนาดไหน แต่รู้ว่าถ้าผู้หญิงคนนี้พูดถึงความเจ็บปวดแสดงว่ามันหนักมาก ต้องลุกขึ้นมาเอายาหม่องมานวด ต้องคุยกัน ปลอบกันเรื่อยๆ ณ เวลานั้น คือตี 3 ยันเช้าไม่หลับ ปวด นอนร้องไห้ เข้าโรงพยาบาลจุฬาฯ วันแรกที่มารักษาจริงจังตัวเขาเนี่ยเต็มไปด้วยแผลพุพองที่ขา น้ำที่พองออกมาก็จะไหลออกมา กางเกงยีนส์ที่เขาใส่มันจะเปียกด้วยน้ำ ก็เดินไปหาหมอ ตรวจเลือด ตรวจทุกอย่าง หมอสั่งแอดมิทได้ไหมวันนี้ ผมบอกเอาก็เอาถ้าหมอสั่ง คือมาเสื้อผ้าตัวเดียวมาจากต่างจังหวัดก็แอดมิทไป หลังจากนั้นร่างกายเขาก็ดร็อปลงมาเลย ขาที่เคยเดินได้ เดินไม่ได้เลย ผมคิดว่าน่าจะแย่ลงเรื่อยๆ ดีนะถึงมือหมอแล้ว เขาไม่สามารถก้าวขาลงจากเตียงได้เลย"

ล่าสุด ผู้จัดการออนไลน์ ได้อัปเดตกับ "สมจิตร จงจอหอ" ว่าตอนนี้อาการของภรรยาเป็นยังไงบ้าง เจ้าตัวก็เผยว่า "ตอนนี้แฟนก็ดีขึ้นแล้ว แต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาล ก็หนักจนรู้สึกเหมือนว่าจะต้องจากกันไป จะเสียชีวิต แต่สุดท้ายเราก็ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ตอนนี้ก็ดีขึ้นกลับมาอยู่ในสภาพที่ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ตอนนี้เข้าสู่เดือนที่ 8 แล้วครับ เมื่อตอนป่วยเนี่ยมันหนักตรงที่ว่าเดินไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง แล้วผิวหนังเขาก็จะคันทั้งตัว ไปอยู่โรงพยาบาล 10 กว่าวัน ก็ถึงขั้นสั่งเสียกันที่โรงพยาบาลแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ให้กำลังใจกัน ตอนนี้คุณหมอก็รักษาจนค่อยๆ ดีขึ้นๆ พยายามให้เจอคนน้อยลง แต่ยังฉีดวัคซีนไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะมีเอฟเฟกต์ ก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดครับ

พอหลังจากที่อยู่ใกล้ชิดหมอ หมอให้คำแนะนำ ว่าต้องกินแบบนี้ พักผ่อนแบบนี้ ต้องดูแลตัวเองแบบนี้ ก็ทำตามตารางที่หมอให้ พอฟอลโลว์อัป 1 เดือนไปเจอหมอ หมอก็เตือนอีกว่าห้ามกินนะ กินอันนี้เกินใช่ไหม ก็ต้องกลับมาลด กลับมาดูแลตัวเองใหม่ ตอนนี้ก็ฟิกซ์เรื่องอาหาร เรื่องการพักผ่อน หลีกเลี่ยงการเจอคนเยอะๆ เพื่อไม่ให้เจอเชื้อโรค แต่เรื่องจิตใจสำคัญมาก บางอย่างกำลังใจของคนนี่สำคัญ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่มันท้อแท้กับชีวิต ถ้ากำลังใจดร็อป มันก็จะร่วงลงไปเลย แต่ถ้ากำลังใจดี จิตใจก็จะสดชื่น จะเข้มแข็งกลับมาได้เหมือนครับ

ซึ่งตอนนี้กำลังใจเราก็ดีมาก แล้วผมก็ให้กำลังใจแฟนเยอะ ดูแลใกล้ชิดมากขึ้น ทำให้ความสุขมันเริ่มต้นจากครอบครัวก่อน พอความสุขมันมี ทุกอย่างมันก็ดีขึ้นๆ สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ ทุกเดือนผมต้องลากองละคร เพื่อที่จะขับรถรับส่งเขาที่ปากช่องมาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ออกจากบ้าน 6 โมงเช้า ถึงโรงพยาบาล 9 โมง ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดเสร็จ 5 โมงเย็นก็รอเจอหมออีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้หมอเช็กทุกอย่าง คือปากผมอยู่ปากช่องครับ ผมเองก็ขึ้นลงๆ ปากช่อง-กรุงเทพฯ ครับ"

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ