วันที่ 14 มิถุนายน 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาทบทวนเกี่ยวกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงประจำสัปดาห์ และมีมติที่ประชุมออกมา ดังนี้

ดีเซล

มีมติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ราคาดีเซล จากเดิม 33.94 บาทต่อลิตร ปรับขึ้น 1 บาทต่อลิตร อยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

โดยกองทุนอุดหนุนอยู่ที่ 9.96 บาทต่อลิตร จากราคาจริงอยู่ที่ประมาณ 45 บาทต่อลิตร เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันตลาดโลกค่อนข้างผันผวนมาก

สำหรับราคาดีเซล ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 170.61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และขึ้น-ลงผันผวนระหว่างสัปดาห์ และในวันที่ 10 มิถุนายน ปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 172.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์

กลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ กบน. ปรับลดการนำส่งเงินเข้ากองทุน จากเดิมจัดเก็บ 1.02 บาทต่อลิตร ลดลงไป 0.93 บาทต่อลิตร เหลือส่งเงินเข้ากองทุน 0.09 บาทต่อลิตร

น้ำมัน E20

จากเดิมจัดเก็บ 0.12 บาทต่อลิตร ปรับลดการจัดเก็บลงอีก 0.94 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนต้องชดเชยเงินให้กับ E20 ที่ 0.82 บาทต่อลิตร เพื่อทำให้ราคาขายปลีกเบนซินลดลง ซึ่งต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรในระยะต่อไป

กองทุนน้ำมันติดลบสาหัส

ปัจจุบันประมาณฐานะกองทุน ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2565 บัญชีติดลบ 91,089 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมัน 54,574 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 36,515 ล้านบาท

หากถามว่าจะสามารถดูแลราคาพลังงานไปจนถึงสิ้นปีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเงินกู้และเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมาตรา 6 (2) ของ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ระบุว่า การปรับราคาดีเซลขึ้น ช่วยลดภาระการอุดหนุนได้ 60 กว่าล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นเงิน 663 กว่าล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 19,900 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อรวมกับการลดอุดหนุนดีเซลพรีเมียมส่วนหนึ่ง จะทำให้มีเงินเติมเข้ามาในกองทุนบ้าง

ปรับเพดานตรึงราคาดีเซล

ขณะที่ นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. ยอมรับว่า เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่ กบน. อาจจะต้องปรับเพดานการตรึงราคาดีเซลเป็น 38 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันกำหนดไว้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร ซึ่งอาจยืนได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน นี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการทบทวนราคาแต่ละสัปดาห์ รวมถึงสภาพคล่องของกองทุนและความคืบหน้าเรื่องเงินกู้จากสถาบันการเงิน ว่าจะมีเงินเข้าเติมในระบบเร็วแค่ไหน

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว