พ.ต.ท.อดีตมือปราบ เสียท่า ถูก ร.ต.ท.เก๊หลอกโอนเงินเกลี้ยง 1.8 ล้าน

พ.ต.ท.อดีตมือปราบ เสียท่า ถูก ร.ต.ท.เก๊หลอกโอนเงินเกลี้ยง 1.8 ล้าน

วันที่ 8 มิ.ย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับพันตำรวจโทนายหนึ่ง เป็นอดีต สวป.สภ.สบปราบ มือปราบวัยเกษียณ ชาวอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง หลังถูก ร.ต.ท.เก๊ แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนสูญเงินหมดบัญชี ถึง 1.8 ล้านบาท

ผู้เสียหายเล่าว่าเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่บ้านได้ผู้ชายคนหนึ่งโทรเข้ามาโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์+69766 9 14097150 และแจ้งว่าโทรมาจากสำนักงาน กสทช. และได้บอกว่ามีบุคคลนำหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองไปใช้ในการกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และต้องการให้ตนเองแจ้งความกับตำรวจทางออนไลน์เพื่อส่งกลับไปทางสำนักงาน กสทช.เพื่อทำการยกเลิก ในการที่จะถูกดำเนินคดี

โดยให้ตนเอง กดเลข 9 ในโทรศัพท์มือถือ ต่อมาทางคู่สนทนาให้แอดไลน์โดยภาพในไลน์ขึ้นเป็น สภ.เมืองเชียงราย และต่อจากนั้นได้คุยสนทนากับคนที่อ้างว่าชื่อ ร.ต.ท.สมศักดิ์ เป็น รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย แล้วต่อสายให้คุยกับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นนายตำรวจอีกนายหนึ่ง เป็นผู้ที่จะทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแต่ต้องทำตามขั้นตอนที่เขาบอกและเขาได้ส่งลิงก์มาให้เป็นแอป teamviewer ซึ่งเป็นแอปที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถเข้ามาควบคุมหน้าจอในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายได้

ต่อมา ได้มีการโหลดแอปของกรุงไทย next เพื่อเข้าสู่ข้อมูลส่วนตัวและเข้าไปผูกบัญชีธนาครกรุงไทย ทั้งหมด 2 สาขา เพื่อทำการถอนเงินของผู้เสียหายในบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาแม่ทะ จำนวน 1,300,000 บาท และธนาคารกรุงไทย สาขาประตูชัย ประมาณ 300,000 บาท โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ถอนเงินในวันนั้น (1 มิ.ย.65) รวม 1,600,000 บาท

นอกจากนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังได้ถามผู้เสียหายว่ามีบัญชีธนาคารอื่นอีกหรือไม่ ผู้เสียหายแจ้งว่ามีบัญชีที่ธนาคารออมสิน สาขาเกาะคา อีกหนึ่งบัญชีมียอดเงินประมาณ 200,000 บาท และวันรุ่งขึ้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ติดต่อมายังผู้เสียหายอีก คราวนี้ได้ให้ผู้เสียหายเดินทางไปที่ธนาคารออมสินเพื่อไปสมัครแอป mymo ของธนาคารและใช้มุกเดิมโดยการเข้ามาควบคุมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายและโอนเงินในบัญชีอีก 200,000 บาท ไปจนเกลี้ยงบัญชี ทำให้คนร้ายได้เงินไปทั้งหมด 3 บัญชี รวมแล้วประมาณ 1.8 ล้านบาท

จนกระทั่งผู้เสียหายสงสัย จึงได้เข้าไปตรวจสอบที่ธนาคาร และมาทราบว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถอนเงินไปหมดเรียบร้อยแล้ว โดยเงินถูกโอนไปบัญชีปลายทางเป็นชื่อ นายพชร บัญชีของธนาคารเกียรตินาคิน และนายรัตนพล บัญชีของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบหมายบัญชีดังกล่าว เพื่อจะทำการออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบสวนและดำเนินคดี โดยคาดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์น่าจะมีการโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีอื่นเป็นทอดๆ แล้ว

ผู้เสียหายยังเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้ติดตั้งแอปของธนาคารใดๆ เนื่องจากไม่ถนัด และคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าหากไม่ใช้แอป ส่วนเงินที่ถูกหลอกไปนั้นเป็นเงินที่จะใช้ในบั้นปลายชีวิต สุดท้ายก็มาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาไปจนหมด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ