ดิว อริสรา ชนะคดีแต่คู่กรณีไม่จ่ายเงินจนถูกยึดทรัพย์

ดิว อริสรา ชนะคดีแต่คู่กรณีไม่จ่ายเงินจนถูกยึดทรัพย์

จากกรณีที่ นางสาว รัตน์ตินันท์ นิติรัตพันธ์ หรือ กลอยใจ เพื่อนสาวคนสนิทของ เบล บุษยา ตั้งภากร ได้ก่อเหตุกับ ดาราสาว ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ บนเรือยอร์ช งานนี้สาว ดิว อริสรา ได้รับบ าดเ จ็ บและกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนปี 2564 ซึ่งนายสาคร ศิริชัย ทนายความส่วนตัวของสาว ดิว ได้เผยว่าพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน ได้แจ้งข้อหา นางสาวรัตน์ตินันท์ ฯ ฐานทำ ร้ า ย ร่ า งกายต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนางสาวรัตน์ตินันท์ต่อศาลแขวงธนบุรีเป็นคดี หมายเลขดำที่ 898/2564 ระหว่าง

พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 7 โจทก์กับนางสาวรัตตินันท์ ฯ จำเลย ซึ่งคดีดังกล่าว นางสาวอริสรา ทองบริสุทธิ์ ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้นางสาวรัตน์ตินันท์ ฯ ชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนความเสียหายในฐานะโจทก์ร่วม

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลแขวงธนบุรีได้มีคำพิพากษาว่าจำเลย (นางสาวรัตตินันท์ หรือ กลอยใจ) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 ลงโทษปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือค่าปรับ 5,000 บาท ส่วนค่าเสียหายในส่วนแพ่งศาลกำหนดค่ารักษาพยาบาล 2,753 และค่าเดินทางครั้งละ 1,000 บาท รวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,753 บาท ค่าเสียหายต่อสภาพจิตใจอันไม่ใช่ตัวเงินตามมาตรา 446 ศาลกำหนดให้จำเลยชำระ 30,000 บาท รวมเป็นค่าสินใหมทดแทนความเสียหาย จำนวน 34,753 บาท ที่จะต้องชดใช้ให้กกับ ดิว อริสรา

และเนื่องจากจำเลยได้วางเงินบรรเทาความเสียหายไว้ต่อศาล จำนวน 1,000 บาท ดังนั้น จำเลย ต้องนำเงินส่วนดังกล่าวมาหักออก คงเหลือเงินที่จำเลยจะต้องชำระ 31,753 บาท ซึ่งจำเลยจะต้องนำเงินมาชำระให้แก่ ดิว อริสรา ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษา แต่ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนดการปฏิบัติตามคำบังคับ ทีมทนายได้ตรวจสำนวนแล้วปรากฏว่าจำเลยไม่ได้นำเงินค่าเสียหายมาวางชำระเพิ่มเติม ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ทางทนายความ จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ยึดทรัพย์สิน ของจำเลยมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมตามกฎหมาย และศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอน ดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อนำเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของจำเลยนำมาขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป

งานนี้สาวดิวก็เลยโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คดีแรก...จบ ต้องบอกก่อนว่า ดิวเคารพการตัดสินของศาล และกระบวนการยุติธรรม ผิด คือ ผิด ตามนั้นเลย ดิวไม่ได้เรียกค่าเสียหายอะไรมากมายเพิ่มเติมให้ตัวเองเลย เพราะเจตนารมณ์คือ เงินที่ได้จากการตัดสิน ดิวตั้งใจว่าจะบริจาคหมดครบถ้วนอยู่แล้ว .. แต่เมื่อถึงกำหนดจ่าย (ยอด 31,753 บาท) ศาลสั่งจ่าย แต่ไม่มีการชำระ ดังนั้น ศาลจึงออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพือ ยึดทรัพย์สิน ของคู่กรณีมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้... ก็ตามนั้น จบ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ