เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ทางหน่วยกู้ภัยมังกร อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากคนทำความสะอาดบริเวณร้านค้าในปั้มน้ำมันบ้านสวนสวรรค์ ต.หันนางาม อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

ว่ามีผู้หญิงอายุประมาณ 10 ปี ได้พลัดหลงกับผู้ปกครอง ภายในปั๊มน้ำมัน โดยก่อนหน้านี้หญิงคนดังกล่าวได้มากับพ่อแม่ผู้ปกครองที่จอดรถกินข้าว และเข้าห้องน้ำกัน แล้วเวลาประมาณ 15.00 น. หลังกินข้าวแล้วได้เข้าไปในร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้

เมื่อกลับออกมาก็ไม่พบรถคันที่ตัวเองและพ่อกับแม่นั่งมาด้วย จึงได้แต่นั่งเฝ้ารอด้านหน้าของร้านสะดวกซื้อ จนมีคนทำความสะอาดมาพบ และสอบถาม และประสานมาทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง ให้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ว่าคนดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน

ซึ่งหลังจากพบกับหญิงคนดังกล่าวแล้วได้สอบถามว่าชื่อน้องปูเป้ อายุ 10 ปี เรียนชั้นประถมปีที่ 4 ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ตัวเองเดินทางมากับพ่อ ซึ่งน้องจำชื่อพ่อได้ว่าชื่อนายประกิจ ดับโศรก กับแม่ และญาติพี่น้อง ที่มางานยายแก่

เมื่อเสร็จงานแล้วจะเดินทางกลับไปกรุงเทพฯ แต่เมื่อเดินทางมาถึงปั๊มน้ำมัน อ.ศรีบุญเรือง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกุดดู่ประมาณ 100 โลเมตร จึงได้จอดแวะกินข้าว และเข้าห้องน้ำ เมื่อกินข้าวเสร็จก็พากันขึ้นรถเดินทางต่อไปเลย โดยไม่ได้ดูว่าลูกอยู่อย่างไร คงคิดว่า

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ตรวจสอบรายชื่อพ่อจากคำบอกเล่าของคน พบว่านายประกิจมีการโทรศัพท์ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านว่ามีเด็กตามชื่อที่บอก หลังตรวจสอบทราบว่ามีเด็กชื่อดังกล่าวจริง

และทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาพ่อกับแม่ที่กำลังเดินทางไปกรุงเทพฯ และถึงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิแล้วนั้น ทั้งพ่อกับแม่ยังเข้าใจว่าบุตรอยู่ในรถด้วยกัน ซึ่งทั้งพ่อกับแม่ก็ได้อาศัยเดินทางมากับรถของคนอื่น จึงไม่อาจจะเดินทางกลับมารับตัวได้

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองจึงได้นำตัวไปส่งญาติพี่น้องในช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบ้านของ นางสุนันท์ ฐานวิชัย เป็นพี่สาวแม่อายุ 50 ปี ที่หมู่ 7 บ้านกุดดู่ ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู โดยได้มีเพื่อน ๆ เด็กรุ่นเดียวกันที่ทราบข่าวมาวิ่งกอดให้กำลังใจ

รวมทั้งญาติพี่น้องที่ได้โอบกอดน้องปูเป้จนเก็บอาการไม่อยู่ สงสารที่ถูกลืม หากไม่พบคนใจดีพยายามติดต่อช่วยเหลือก็คงจะลำบาก ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองยังบอกอีกว่า ยังมีคนใจดีที่รู้ว่าน้องปูเป้พลัดหลงกับพ่อแม่

ได้ให้เงินมาซื้อเสื้อผ้ารองเท้าของใช้ให้กับน้องอีก 2,000 บาทด้วย นางสุนันท์ ฐานวิชัย ป้าของน้องปูเป้ บอกว่า ตนซื้อจากรถขนดินที่เตรียมที่จะปรับปรุงบ้านไว้อยู่กันกับหลาน เพราะบุตรโตหมดแล้ว จึงอยากจะดูแลหลาน เพราะหากจะปล่อยไปก็กลัวจะเสียอนาคต

จึงอยากดูแลหลนา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้นำหลานมาอยู่ด้วยแล้วประมาณ 1 เดือน พอดีพ่อกับแม่ซึ่งไปทำงานอยู่ที่จังหวัดระยองกลับมางานของยายที่น้องปูเป้มาอยู่ด้วย หลังเสร็จงานแล้วอยากจะเอาบุตรไปอยู่ด้วย ไปเรียนหนังสือ หลังจากนี้ ให้หลานอยู่กับป้าที่นี่ เพราะหากดูจากพ่อกับแม่แล้วก็เป็นห่วงหลานกลัวจะเลี้ยงไม่ได้

ซึ่งพ่อก็เป็นคนที่ชอบดื่ม แม่ก็ไม่ค่อยจะสมประกอบ ตัวเองก็เลยจะรับหลานมาดูแล เป็นห่วงอนาคตหลาน อีกอย่างบุตร ก็โตแล้ว จะได้มีหลานเป็นเพื่อนคุย และที่บ้านก็ยังมีเพื่อนเล่น ซึ่งเป็นหลานอีก 2 คน คือน้องส้ม และน้องเอย เรียนอยู่ในชั้น ป.4 เหมือนกัน

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews