เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวและเหตุการณ์ที่ยังคงเป็นที่น่าสนใจของชาวโซเชียลเป็นอย่างมากซึ่งก็ได้ผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือนกว่าแต่ก็ยังคงหาคำตอบของเรื่องนี้กันต่อไปคืบหน้าคดีเเตงโม ล่าสุดในรายการถกไม่เถียง ทาง แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้ออกมาคลายปมสงสัยต่างเรื่องบาดเเผล

เเละการที่เเตงโมตกท้ายเรือจริงหรือไม่ พูดถึงเเผลเเต่ละกลุ่ม จากทั้งสิ้น10กลุ่มรวม26เเผล โดยเป็นเเผลถลอกต่างๆ ซึ่งสามารถบอกได้ว่าร่างกายไปโดนอะไรมา ยืนยันเเตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ ซึ่ง หมอพรทิพย์ พูดชัดเเผลเกิดจากใบพัดเรือ มีความเป็นไปได้ไม่ถึง1เปอร์เซ็นต์

โดยในรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD กดหมายเลข 35 มีผู้ดำเนินรายการคือ ทิน โชคกมลกิจ ในวันที่ 11พ.ค.65 ได้เชิญ หมอพรทิพย์ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ มาร่วมพูดคุยคลายข้อสงสัยในคดีเเตงโม พร้อมกับ แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ กับหัวข้อ ปาหี่ระดับชาติ เบาะแสสำคัญโผล่บาน ขยี้ปม แตงโม นิดา

ไม่ได้ตกท้ายเรือ ซึ่งพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์เรื่องบาดแผลร่างเเตงโม หมอพรทิพย์ เผยว่า แผลกลุ่มแรกแผลต้นขาเปลี่ยนแปลงเพราะเขาเย็บไปแล้วเราดูอะไรไม่ได้ กลุ่มที่สองคือแผลที่สะเปะสะปะเราไม่รู้ว่าอันไหนแผลเก่าแผลใหม่ แต่กลุ่มที่สามที่เห็นชัดเลยคือแผลถลอกตื้นเป็นแนวที่ต้นขาด้านใน ข้างหลัง เฉียงลงไปถึงน่อง

ข้างละ 10 แผล ขนานกันคล้ายก้างปลาเป็นบาดแผลไม่ลึกแค่ผิวๆ อันนี้มีลักษณะเฉพาะที่สามารถบอกได้ว่ากระทบอะไร ซึ่งทำให้ตนคิดอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือฐานเรือว่า แต่ต้องพิสูจน์มีรอยของการกระทบไหม อีกอย่างคือใบพัดเนื่องจากแผลเป็นแนวขนาดกันมันบ่งบอกได้ว่าร่างเคลื่อนที่ผ่านใบพัดค่อนข้างนิ่ง

ทีนี้ร่างอยู่ในน้ำมันนิ่งไม่ได้ แสดงว่ากระแสน้ำทำให้เขานิ่ง และกระแสน้ำตรงไหนที่ทำให้ร่างเขานิ่งมันต้องไม่ใช่ท้ายเรือ เพราะถ้าตกท้ายเรือมันจะตวัดมาโดนใบพัดเกิดแผลนิ่งแบบนี้เป็นไปไม่ได้ มันจะโดนใบพัดเต็มๆมันจะต้องเป็นแผลลึก แต่อันนี้มีคำอธิบายว่ามีฟินเรือบังอยู่บาดแผลมันเลยไม่ลึก

ส่วนบาดแผลใหญ่ที่สุดตรงต้นขา หมอพรทิพย์ ไม่ขอพูดถึง เพราะเห็นรูปตอนแรกขอบแผลมันเรียบกริบ แต่พอมาเห็นหน้างานเขาเย็บปิดจนไม่สามารถบอกอะไรได้ ส่วนตัวให้ความเห็นว่าโอกาสโดนใบพัดเรือไม่ถึง 1% เเต่จากการจำลองดังกล่าวหากใช้ใบพัดจริงอันนั้นไม่ถูกต้อง

อยากบอกประชาชนว่าอย่าตกใจกับข่าวมาก เพราะศพฉีดฟอร์มาลีนมันแข็งมาก มีดใหม่ๆกรีดยังไม่เข้าเลย ใบพัดเรือมันคงไม่คมขนาดนั้น แต่ใช่ว่าไม่เกิด ก็มีโอกาสเกิดแผลใหม่ได้แต่เป็นไปได้ยาก ส่วนเรื่องการรายงานจำนวนแผลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเกิดจากการรายงานไม่ครบถ้วนมากกว่า

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews