ผบช.ภ.1 ยอมรับแล้ว ภาพบาดแผล คดีแตงโม

ผบช.ภ.1 ยอมรับแล้ว ภาพบาดแผล คดีแตงโม

เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน เมื่อนักเเสดงสาว แตงโม นิดา เกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยล่าสุดก็ได้สถานีตำรวจแถลง บทสรุปคดีแตงโม โดยเป็นการร่วมแถลงข่าวการสรุปสำนวนการสอบสวนคดี น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1

โดยการเเถลงสรุปสำนวนของ แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 โดยระบุว่า จากการสืบสวนพยานหลักฐาน ผู้ต้องหา 6 ปาก พยานรวม 124 ปาก เก็บวัตถุพยาน 88 ชิ้น พยานเอกสาร 47 ฉบับ คลิป 200 คลิป มีเอกสารทั้งสิ้น 2249 แผ่น

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการแถลงข่าวจะไม่เป็นที่พอใจของคนส่วนใหญ่ เพราะทั้งชาวเน็ตรวมถึงคนในวงการบันเทิงต่างออกมาเคลื่อนไหวถึงเรื่องนี้แบบดุเด็ดเผ็ดร้อน ซึ่งตอนนี้มีเรื่องที่ถกเถียงกันสนั่นโซเชียล หลังจากที่มีชาวเน็ตคนหนึ่งนำภาพที่ตำรวจนำมาใช้แถลงข่าวเมื่อวานนี้ ซึ่งอ้างว่าเป็นบาดแผลที่โดนใบพัดเรือเหมือนกับสาวแตงโม แต่ความจริงแล้วบาดแผลดังกล่าวไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ เพราะบาดแผลนี้ได้มาขณะงานเลี้ยงเต้นรำในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตำรวจยังคงสืบหาความจริงอยู่ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ งานนี้ก็เลยวิพากษ์วิจารณ์กันว่าโป๊ะหรือไม่ ?

ด้านบนนี้คือภาพส่วนหนึ่งของการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ โดยตำรวจระบุว่า รูปด้านซ้ายคือการจำลองบาดแผลขนาดใหญ่ที่ขาของแตงโม ซึ่งเมื่อมีการเย็บแผลแล้ว ลักษณะจะเหมือนกับรูปด้านขวา คือเป็นรอยโค้งเว้าโดยอ้างว่า แผลดังกล่าวเกิดที่ต่างประเทศและโดนใบพัดเรือชนิดเดียวกันกับแตงโม จึงมีลักษณะบาดแผลเหมือนกัน

แต่เมื่อชาวเน็ตไปค้นข้อมูลของภาพดังกล่าวก็พบว่าบาดแผลนี้ไม่ได้โดนใบพัดเรือ

ล่าสุด พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 พร้อม พลตำรวจตรีวสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และพันตำรวจเอกวรชาติ แสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแถลงชี้แจงกรณีสังคมตั้งข้อสังเกตหลังการสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม นิดา แต่กลับพบว่ามีข่าวจากสำนักข่าวเดอะซัน ประเทศอังกฤษ ที่มีผู้บาดเจ็บถูกของมีคมบาดขาเป็นรอยยาวโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งรอยแผลดังกล่าวคล้ายกับภาพบาดแผลของศพแตงโม ที่ตำรวจนำมาแถลงข่าวสรุปสำนวน

พันตำรวจเอก วรชาติ กล่าวว่า ภาพที่นำมาอธิบายลักษณะบาดแผลเป็นรูปโค้งเว้า โดยตำรวจได้ใช้คำว่าบาดแผลโค้งเว้าที่มีลักษณะเดียวกันในวันแถลงสรุปคดี เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่สามารถนำบาดแผลจากศพมานำเสนอได้ โดยแผลหลังการเย็บ จะมีรูปโค้งเว้าเป็นอักษรตัวเอส ซึ่งทีมงานที่นำมาเสนอต้องการให้เห็นภาพบาดแผลว่าเป็นอย่างไร โดยภาพบาดแผลนั้น สามารถค้นหาได้ด้วยคำว่า propeller wound ซึ่งมีทั้งบาดแผลในคนและสัตว์ โดยตำรวจได้ศึกษางานวิจัยของต่างประเทศ ในเรื่องคนที่ถูกใบพัดเรือฟันในลักษณะต่างๆ ยืนยัน ตำรวจไม่สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ในโลกที่ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้เช่นปัจจุบัน จึงต้องขออภัยประชาชนที่นำภาพซึ่งไม่ได้ระบุแหล่งที่มาอย่างครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจที่กำกวมและมีข้อสงสัย ซึ่งเจตนาจริง ตำรวจต้องการนำเสนอภาพบาดแผลที่คล้ายอักษรตัวเอส เท่านั้น ยืนยันว่าประเด็นนี้ ไม่ทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ด้าน พลตำรวจโทจิรพัฒน์ กล่าวว่า จากภาพในงานวิจัยดังกล่าวพบว่า หากโดนใบพัดเรือเฉี่ยว แผลจะเป็นรอยก้างปลาตรงๆ ถ้าใบพัดฟันลึกไปอีกจะเป็นตัวเอส แต่หากลึกไปเลยจะมีความโค้งมากกว่าตัวเอส

ส่วนกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ตั้งข้อสังเกตว่าบาดแผลบนศพมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 11 รอย เป็น 26 รอย โดยไม่มีการระบุที่มาของแผลเพิ่มเติมนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ยอมรับ จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ตอนนี้ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากสาระสำคัญในคดีไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว มีการเปิดคลิปที่สื่อหนึ่ง เปรียบเทียบร่องรอยบาดแผลของผู้ที่ถูกใบพัดเรือฟันใส่ขา โดยคนเจ็บอยู่หัวเรือและถูกเรืออีกลำเข้ามาชน เมื่อคนเจ็บตกเรือก็ถูกใบพัดเรือตีเข้าที่ขา 2 ข้างจนเส้นเลือดใหญ่ขาดทำให้ขาไม่มีแรง ก่อนว่ายเข้าฝั่งไปได้ ด้านทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงชี้แจงในวันนี้ เปิดเผยว่า วันนี้มารับฟังข้อมูลในฐานะประชาชน ไม่ได้มากดดันเจ้าหน้าที่ และไม่ขอตอบอะไรมาก จากนี้ก็จะนำข้อมูลมาประชุมกับ ทีมงาน ส.ส.เต้ อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มีประเด็นในใจอยู่แล้ว 50/50 เมื่อย้ำถามว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมหรือไม่ ทนายกฤษณะ บอกว่าเป็นประเด็นที่ตนเคยตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ