ตรุษจีนอุดรฯราคาทองพุ่งสูงร้านทองเงียบเหงาติดต่อกัน 2 ปี

ตรุษจีนอุดรฯราคาทองพุ่งสูงร้านทองเงียบเหงาติดต่อกัน 2 ปี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์เดินทางไปที่ห้างทองกงเชียงล้ง เลขที่ 178 ถ.โพศรี เทศบาลนครอุดรธานี ไปพบกับนายธีระ ตั้งหลักมั่นคง อดีตประธานหอการค้า จ.อุดรธานี ประธานชมรมร้านทอง จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามสถานการณ์ร้านทองช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งระบุว่าปีนี้ยังคงซบเซาไม่คึกคักต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง แม้ว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ทั้งเศรษฐกิจโลก การระบาด และการมาของสกุลเงินดิจิตอลที่ผันผวน นักลงทุนหันมาลงทุนสินทรัพย์ที่มั่นคง ภาพรวมประชาชนไม่มีทองคำเก็บ เนื่องจากเทขายมาอย่างต่อเนื่อง

นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง ประธานชมรมร้านทอง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีราคาขยับขึ้นสูงมาโดยตลอด เพราะว่าในสถานการณ์โลกมีปัจจัยที่ทำให้ราคาทองขึ้น สาเหตุหลักเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจและการเมืองด้วย รวมทั้งความตรึงเครียดของราคาน้ำมันที่ตะวันออกกลางก็มีส่วน อีกเรื่องคือสถานการณ์พิเศษที่ปัจจุบันมีการเล่นบิทคอยท์กันอย่างสนุกสนาน หุ้นดาวน์โจนขึ้นแล้วขึ้นอีก จู่ๆก็ตกกันลงมา ตกต่อเนื่องหลายวันต่อๆกัน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดี หลายคนที่ลงทุนกับสิ่งเหล่านี้ก็ถอนตัวออกมา แล้วก็ไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มั่นคงนั่นก็คือทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาทองขึ้นด้วย

คลังแต่ละประเทศซื้อทองเข้าเพื่อเป็นทุนสำรองเงินตราของเขาด้วย ประเทศไทยเอง 2 ปีที่ผ่านมาก็ซื้อทองเข้าคลังเยอะมาก นี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองขึ้นเช่นกัน ราคาทองคำของประเทศไทยก็ต้องเทียบกับต่างประเทศ แต่ไทยเรามีข้อพิเศษอยู่อย่างหนึ่งก็คือค่าเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อต้นปีที่แล้ว 1 ดอลล่าสหรัฐ เท่ากับ 30 บาท แต่มาตอนนี้เท่ากับ 33 บาท ค่าเงินที่ต่างกันทำให้ทองคำแพงเกือบ 2 พันบาท ราคาทองตอนนี้พุ่งขึ้นมาประมาณ 28,000 กว่าบาท หากรวมค่ากำเน็จก็ประมาณ 29,000 กว่าบาท

นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง เปิดเผยต่อว่า ตรุษจีนปีที่แล้วกับปีนี้หากเทียบกันแล้วก็ไม่ต่างกัน หมายความว่าเศรษฐกิจไม่ดีเลย ปีที่แล้วก็ชัดเจนเรื่องของ cv 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ทำให้การท่องเที่ยว ธุรกิจต่างๆ ซบเซาไปตามๆกัน สถานการณ์ของร้านทองเองก็ลำบากมาตลอด หากประชาชนหากกินเหลือใช้เหลือถึงจะคิดมาซื้อทองกัน ปีนี้ก็เงียบเหงา ทองแพงไม่ว่าแต่เศรษฐกิจมันไม่ดีต่อเนื่องมา บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่เคยดี ตอนนี้ก็ลำบากมาก หลายกิจการขึ้นป้าย ปิด หยุด หรือให้เช่า บริษัทที่ยังเดินได้อยู่ก็เปลี่ยนการจ่ายโบนัส ไม่ได้แจกทองแต่เปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า จะแจกทองเหมือนแต่ก่อนก็แทบจะไม่เห็นแล้ว

ส่วนเรื่องการจำนำ การขายฝาก ทองคำหากพูดกันตรงๆ ตอนนี้ทองอยู่ในมือชาวบ้านน้อยมาก อย่างที่ว่ามาในเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ชาวบ้านก็ทยอยขายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งราคาทองก็ดีด้วย ตอนนี้ก็แทบจะไม่มีทองอยู่ในมือเลย ชาวบ้านจะซื้อสิ่งที่จำเป็นมากกว่าซื้อทอง อุดรธานีเป็นหัวเมืองใหญ่มีร้านทองอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากเศรษฐกิจที่นี่ดี หากที่นี่ไม่ดีที่อื่นก็ไม่ต้องพูดถึง เท่าที่พูดคุยกันในกลุ่มผู้ค้าทั่วประเทศทุกคนบ่นเหมือนกันหมด ที่ กทม. หรือที่ถนนเยาวราช ผมเองก็ไปสัมผัสอยู่บ่อยๆ บรรยากาศเงียบมาก แม้กระทั่งปีนี้เองถนนเยาวราชก็ไม่จัดงานตรุษจีน ชัดเจนว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันไม่เหมือนเดิม ค่อนข้างที่จะลำบากกัน

นายธีระตั้งหลักมั่นคง เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ร้านทองที่ปิดก็หลายร้าน ปิดไปเลยก็มี ย้ายร้านก็มี ที่อุดรธานี 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมาปิดตัวไปประมาณ 10 ร้าน แต่ก็มีมาเปิดใหม่บ้าง แต่เป็นผู้ประกอบการด้านอื่นมาลงทุนเปิดทองเสียมากกว่า ก็มีเพิ่มมีลดไปตามสถานการณ์ การปรับตัวในช่วงนี้สำหรับร้านทอง ต้องเรียนว่าเราโชคดีเพราะทองคำเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่ไม่ขายก็ไม่บูดไม่เน่า มันมูลค่าอยู่ในตัวเอง พออยู่กันได้ก็โอเค ต่างจากธุรกิจที่มีโอกาสเสื่อมมีโอกาสเสีย

ในขวบปีที่ผ่านมาพวกเราทุกคนทุกสาขาอาชีพอยู่ในสภาวะที่ลำบาก ต้องต่อสู่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมามากมาย โดยเฉพาะการระบาดของ cv 19 ทุกคนก็ต้องประคองตัว ปีใหม่แล้ว ตรุษจีนแล้ว ก็ขอภาวนาให้โรคร้ายนี้ผ่านไป ก็ขออวยพรให้ทุกครอบครัวพบเจอแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังทุกประการ สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง อายุยืนยืนยาว เฮงเฮง รวยรวย ซินเจียยู่อี ซินหนี้ฮวดไช้

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ