กระแสลงนะหน้าทอง วัดไผ่ล้อมแรงไม่หยุด ประชาชนนับร้อยแห่ร่วมพิธี

กระแสลงนะหน้าทอง วัดไผ่ล้อมแรงไม่หยุด ประชาชนนับร้อยแห่ร่วมพิธี

วันที่ 23 มกราคม 2565 บรรยากาศที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม มีประชาชนเดินทางมาเพื่อทำบุญในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างต่อเนื่องซึ่งพบว่าหลังมีกระแสข่าว ที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาโต้แนวคิดของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เรียกร้องให้มหาเถรสมาคมออกมาดำเนินการในกดดันพระสงฆ์ที่มีการทำพิธีลงนะหน้าทอง ซึ่งขัดต่อหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นประเด็นร้อนในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยจุดต่าง ๆ ที่ทางวัดไผ่ล้อมได้มีการจัดสถานที่สำหรับให้ประชาชนได้มีการเข้ามาทำบุญ โดยมีการจัดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ cv อย่างรัดกุม พร้อมกับมีการกำหนดพื้นที่เพื่อให้มีการเว้นระยะห่าง สำหรับการทำบุญด้วยความปลอดภัย

ขณะที่จุดที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จัดให้มีการพิธีการลงนะหน้าทอง ตำรับหลวงพ่อพูล ได้มีประชาชนเดินทางมาลงชื่อเพื่อจองคิวสำหรับพิธีไม่ขาดสาย ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงช่วงเย็น ซึ่งทางวัดไผ่ล้อม ได้จัดให้เก้านี้สำหรับเข้าร่วมพิธีแยกห่างกัน ซึ่งพิธีการยังคงเป็นไปอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา ทั้งการปิดทองที่ หน้าผาก ใบหน้าและที่ผ่ามือทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะให้หลวงพี่น้ำฝนทำการเจิมและสวดคาถาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งพบว่าในวันนี้มีประชาชนที่ให้ความสนใจนับร้อยคนมาจองคิวจนแน่นตลอดทั้งวัน

นางศปภา เพชรษาลิขิต ชาวกรุงเทพมหานคร บอกว่า มาเข้าร่วมพิธีลงนะหน้าทองกับหลวงพี่น้ำฝน เพราะว่ามีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวหลวงพี่น้ำฝน เพราะศึกษามาหลายรอบถึงได้ตัดสินใจมาและเห็นว่าได้นำค่าครูไปบูรณวัด สร้างโรงเรียนและโรงพยาบาล ส่วนการลงนะหน้าทองตามที่มีกระแสวิจารณ์นั้นมองได้ว่าเป็นเรื่องของความเชื่อของแต่ละคน เพราะความศรัทธาไม่เหมือนกันส่วนตัวเองเชื่อมั่นจึงได้มาและเชื่อว่าจะเกิดสิ่งที่ดีกับชีวิต

ส่วน นางสาวอรอุมา สมเมฆ ชาวจังหวัดปทุมธานี บอกว่า การได้มาลงนะหน้าทอง จะทำให้ได้ในเรื่องนะเมตตา ใครพบเห็นเอ็นดูรักใคร่ ค้าขายได้ดี ส่วนกระแสที่ได้รับจากข่าวตนเองทำแล้วทำแล้วสบายใจและมีกำลังใจในชีวิต โดยอย่างแรกคือต้องมีศรัทธาก่อน และเมื่อมาฟังสิ่งที่หลวงพี่น้ำฝนได้สั่งสอนคือรักษาศีล 5 ซึ่งแน่นอนหากเราได้ชีวิตก็ย่อมดีจริง โดยเมื่อได้มาเจิมไปแล้วก็รู้สึกว่าดีชีวิตมีความสุขมากขึ้นก็เป็นความเชื่อที่ตนเองเชื่ออย่างนั้น

ข่าวโดย ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ