อลิสา จณิน บินตรงจากเบอร์ลิน ถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัย

อลิสา จณิน บินตรงจากเบอร์ลิน ถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัย

อลิสา จณิน นักร้อง นักแสดง แร็ปเปอร์ชื่อดัง ที่ได้ไปอาศัยในกรุงเบอร์ลินมานานหลายปี ล่าสุดวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 อลิสา จณิน ได้ถึงเมืองไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยทางต้นสังกัดริเวอร์แมนลอนดอนได้ซื้อตั๋วไปกลับให้ และให้จณินได้เลือกสายการบินเอง ที่เลือการ์ต้า เพราะราคาตอนที่ซื้อแค่ห้าร้อยยูโร หรือประมาณ 20,000 บาทไทย

เธอยังได้บอกอีกด้วยว่า ก่อนบินกลับวันนึง ได้มีสายการบินส่งเมล์มาชวนให้อัพเกรดตั๋วเป็นชั้นบิสซิเนส เพิ่มเงินแค่เพียง 7,000 กว่าบาท แต่จณินไม่ได้ทำ เพราะตั้งแต่ได้เริ่มทำกล่องปันสุขบริจาคพี่ๆน้องๆคนไทยที่ลำบาก ก็เริ่มรู้สึกว่าเงินทองมีค่ามาก ควรเอาไปทำกล่องส่งให้คนที่มีความจำเป็นดีกว่าเอาไปนั่งชั้นธุรกิจแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ก่อนบินต้องเข้าระบบไทยแลนด์พาสทางออนไลน์ ต้องอัพโหลดตั๋วเครื่องบิน หน้าพาสปอร์ต ใบจองโรงแรมกักตัวที่จ่ายเงินแล้ว ต้องเป็นโรงแรมที่มีสัญลักษณ์ SHA กักตัวหนึ่งคืน ราคาจะเริ่มต้นที่คืนละสี่พันกว่าเกือบห้าพันไปจนถึงหลักหมื่น รวมค่าตรวจโควิด PCR ระหว่างอยู่ในโรงแรม ค่ารถรับจากสนามบินไปโรงแรมและค่าอาหารในโรงแรมแล้ว ถ้าเราฉีดวัคซีนสองเข็มแล้ว หลังฉีดเข็มที่สอง 14 วันเป็นต้นไป ก็กักตัวแค่คืนเดียว

ตอนเข้าระบบไทยแลนด์พาส อยากแนะนำให้รีบลงทะเบียนไทยแลนด์พาสตั้งแต่เนิ่นๆอย่างน้อยสิบวันก่อนการเดินทาง เพราะเวลาลงแล้ว ก็ยังไม่ได้หนังสือยืนยันนะคะ เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารเราไปตรวจสอบก่อน กว่าจะได้ก็ห้าวัน เจ็ดวันหลังจากนั้นค่ะ บางคนตกเครื่องไม่ได้บินมาไทยตามกำหนด เพราะจะบินอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ไทยแลนด์พาส เพราะเข้าระบบช้าเกินไป อีกอย่างที่อยากบอกคือ เวลาจองห้องกักตัวในโรงแรม ต้องดูดีๆว่า ชื่อโรงแรมอยู่ในระบบไทยแลนด์พาสหรือยัง ถ้ายัง ก็ขอแนะนำให้จองที่ใหม่ ที่มีชื่อในระบบออนไลน์นี้แล้ว ไม่อย่างนั้น เราจะคลิกไปต่อในแบบฟอร์มไม่ได้ค่ะ บางโรงแรมในเน็ตมี SHA ห้อยหลังชื่อ แต่พอมาลงทะเบียนกรอกข้อมูลในระบบ ไม่มีชื่อ ก็ทำให้กรอกไม่สำเร็จค่ะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับจณินด้วย กังวลมากๆกลัวไม่ได้บินตามวันที่กำหนดในตั๋ว จณินต้องโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ของไทยแลนด์พาส พี่เจ้าหน้าที่ที่รับสายใจดีมากๆ อธิบายให้จณินฟังอย่างที่ได้บอกข้างบนแล้วบอกว่า หลังจองห้องโรงแรมในเน็ตแล้ว ก็ยังจะลงทะเบียนในระบบไม่ได้ ต้องรอจนกว่าทางโรงแรมจะส่งใบยืนยันห้องมาทางเน็ต แล้วก็ต้องใช้ใบนั้นอัพโหลดในระบบด้วย จองวันนี้ ทางโรงแรมก็จะใช้เวลาอีกวันสองวันกว่าจะส่งเอกสารมาให้ทางเมล์ ใครที่รีบเดินทาง ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นเวลาผ่านไปเป็นวันๆ ก็ต้องมาเสียเวลารอแบบนี้ จะไม่ทันการค่ะ

พี่เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ไทยแลนด์พาสบอกด้วยว่า ช่วงนี้มีคนลงทะเบียนในระบบจะเข้าเมืองไทยวันละหกหมื่นกว่าคน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานเช็คเอกสารกันเยอะมาก เลยอาจล่าช้าบ้าง เราจึงต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆไม่ใช่สมมุติจะบินวันที่สิบ แต่เข้าระบบไทยแลนด์พาสแค่สองสามวันก่อนจะบิน ก็จะไม่ได้ไทยแลนด์พาสทันก่อนบิน ก็จะตกเครื่องค่ะ ก่อนบิน 72 ชั่วโมงต้องทำ PCR เทสต์ด้วย แรพพิดเทสต์ก็ไม่ได้นะคะ ถ้าไม่ทำ ก็จะบินไม่ได้ แล้วต้องพรินท์ผลตรวจออกมาด้วย เจ้าหน้าที่สายการบินไม่รับเอกสารที่เราเก็บเป็นรูปในมือถือค่ะ ก่อนจะบิน ผลตรวจ PCR ลบ สำคัญมากๆ ถ้าไม่มีตัวนี้ นอกจากจะบินไม่ได้แล้ว ยังจะเข้าเมืองไทยไม่ได้ เช็คอินโรงแรมก็ไม่ได้ด้วยนะคะ

ถ้าเรามาทำตรวจโควิด PCR ตอนค่ำก่อนจะเดินทางอีกวันนึงไม่ทำตอนเช้า แทนที่จะเสียค่าตรวจคิดเป็นเงินไทยสี่พันกว่า ก็จะต้องเสียแปดพัน เพราะเป็นค่าธรรมเนียมจะเอาผลด่วน เราก็ต้องเตรียมตัวให้ดีด้วย ไม่งั้นจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกเท่าตัวโดยไม่จำเป็นค่ะ จากเบอร์ลินไปโดฮา จณินต้องไปถึงสนามบินก่อนบินสี่ชั่วโมงอย่างต่ำ สมัยก่อนโควิดแค่สองถึงสามชั่วโมงก่อนการเดินทางก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่สนามบินเขาตรวจสอบเอกสารนานมากๆ เข้มงวดขึ้น ก็ใช้เวลาในการเช็คอินนานมากขึ้นด้วย ถ้ามาช้า ก็อาจตกเครื่องได้ จากโดฮาไปกรุงเทพ เครื่องบินคนแน่นมากเลยค่ะ มีแต่นักท่องเที่ยว พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารก็เยอะ สนามบินไม่เหงาไม่วังเวงเหมือนตอนเดือนกุมภาที่จณินมา วันนี้ตรงประตูทางออกที่รถตู้โรงแรมมารอรับจณิน มีรถตู้โรงแรมเป็นสิบจอดรอรับผู้โดยสาร มีพนักงานเป็นสิบเหมือนกันมายืนยกป้ายชื่อ ประกาศชื่อผู้โดยสารให้ไปขึ้นรถ เมืองไทยเราตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศต้นเดือนพฤศจิกา ก็มีนักท่องเที่ยวเยอะมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว คงจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมไปได้มากขึ้น

ก่อนบินมาไทย คนที่ฉีดวัคซีนสองเข็มแล้ว ก็ต้องตรวจ PCR ผลออกมาต้องเป็นลบ 1 พอมาถึงแล้วต้องตรวจอีก 1 ครั้งตอนอยู่โรงแรม ถ้าผลเป็นลบในวันรุ่งขึ้น ก็ออกได้เลย ถ้าติดก็ต้องไปโรงพยาบาลค่ะ มาตรการนี้น่าจะช่วยคัดกรองนักท่องเที่ยวได้ในระดับหนี่ง ทำให้ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโควิดไปได้บ้าง คนไทยก็ไม่ต้องกังวลมากว่า นักท่องเที่ยวหรือคนบินมาไทย จะเอาเชื้อมาแพร่ พอนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเยอะแบบนี้ ก็จะช่วยสร้างงานให้คนด้วย 

อนาคตเมืองไทยจะต้องดีขึ้นแน่นอน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจและเข้มแข็ง อย่าท้อแท้นะคะ ดูแลสุขภาพกันด้วยค่ะ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ