เผยวันลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่

เผยวันลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งได้มอบนโยบายกรมบัญชีกลางให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเงินของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กรที่จะต้องทำต่อไป เนื่องจากหากสามารถขับเคลื่อนเม็ดเงินให้ลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะเป็นการช่วยพยุงเศรษฐกิจ และสร้างแรงส่งให้กับเศรษฐกิจไปยังปีหน้าด้วย

น.ส.กุลยา กล่าวว่า นอกจากนี้ มอบนโยบายให้กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ของรัฐ คาดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายออกมาในช่วงไตรมาส 4 และต้นไตรมาส 1 ของปี 2565 เพื่อทำให้ เศรษฐกิจสามารถฟื้นฟูและเดินหน้าต่อไปได้

อาทิ การเตรียมลงทะเบียนบัตรสวัสดิการในปีหน้า ก็อยากให้กรมบัญชีกลาง โดยถือเป็นแกนนำสำคัญในการลงทะเบียนแต่ละจังหวัด แม้สถาบันการเงินของรัฐจะมีการรองรับด้วย แต่ในส่วนของคลังจังหวัดก็มีส่วนร่วมด้วย ซึ่งต้องการให้กรมบัญชีกลางทำงานสำคัญร่วมกับฝ่ายนโยบาย

ตอนนี้ฝ่ายนโยบายได้เตรียมความพร้อมในการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแล้ว และกรมบัญชีกลางจะต้องให้สัญญาณว่ามีความพร้อมขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการต้องการคืนบัตรก็ต้องเอามาคืนให้กับกรมบัญชีกลาง

ส่วนเปิดลงทะเบียนรอบใหม่นั้น ตอนนี้ฝ่ายนโยบายกำลังดูอยู่ว่าจะทำบัตรในลักษณะใด ถ้ายังเป็นบัตรรูปแบบเหมือนเดิม การคืนบัตร หรืออื่นๆ ก็ยังผ่านที่กรม แต่จะต้องรอดูรูปแบบการใช้จ่าย และรูปแบบของบัตรในการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ด้วย น.ส.กุลยา กล่าว

น.ส.กุลยา กล่าวว่า จะเร่งรัดในเรื่องเบิกจ่ายด้วย ซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายด้วย โดยเป้าการใช้จ่ายงบประมาณ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะเป็นผู้กำหนดให้กรม เข้าใจว่าเมื่อเป็นเป้าการใช้จ่ายงบประมาณ ก็จะตั้งไว้สูง 100% ฉะนั้น กรมบัญชีกลางก็จะต้องทำให้ได้มากที่สุด ทั้งเรื่องการเบิกจ่ายได้ และก่อหนี้ผูกพันได้

ในปีงบประมาณ 2564 สศค. ก็กำหนดมา 100% กรมบัญชีกลางก็ทำได้ระดับใกล้เคียง คือ 98% ซึ่งเข้าใจว่าการตั้งเป้าการใช้จ่ายงบประมาณ 100% เพราะรัฐบาลต้องการใช้เงินให้หมด โดยเฉพาะในปีงบประมาณ 2565 นี้ เม็ดเงินอยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งลดลงมาเยอะ ก็ต้องมีการใช้จ่ายให้หมด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด น.ส.กุลยา กล่าว

น.ส.กุลยา กล่าวว่า ทั้งนี้ อยากเห็นการปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัย สามารถมีความยืดหยุ่นให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างคล่องตัว เพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็จะเข้าไปดูกฎระเบียบของกรมบัญชีกลาง หากส่วนใดล้าสมัยแล้วก็จะไม่นำมาใช้ ส่วนที่ยังต้องใช้ดู ก็จะมาดูว่าจะปรับปรุงให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและระบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้างที่ทำให้การเบิกจ่ายคล่องตัว และสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของประเทศ และงานต่างๆ ที่ค้างอยู่ในส่วนของกรมบัญชีกลาง จะเขามาเร่งรัดในทุกส่วน เช่น การจัดซื้อจัดจ้างที่ค้างอยู่ ก็จะเข้ามาเร่งดำเนินการ ตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ