จากกรณี น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเหตุให้น้องก้อง เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้ามอบตัวและถูกควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาวันที่ 29 ก.ย.64 ที่สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ตำรวจเชิญตัว นายกลยุทธ์ อายุ 45 ปี พ่อของ น.ส.พิยดา และ น.ส.วีรวรรณ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี โดยนำหมายค้นเข้าไปเชิญตัวมาจากรีสอร์ตใกล้กับสถานีตำรวจ

พร้อมทั้งทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู เงินสด 700,000 บาท โทรศัพท์มือถือ และเอกสารต่าง ๆ ภายในห้องพักทั้งหมดมาด้วย เพื่อดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

โดย น.ส.วีรวรรณ แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งและโวยวายที่ถูกตำรวจยึดอายัดทรัพย์ไปตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า เงินสดประมาณ 700,000 บาทที่เตรียมมาประกันตัว น.ส.พิยดา พร้อมเอกสาร และโทรศัพท์มือถือถูกยึดไปทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย และหมดหนทางที่จะยื่นประกันตัวน.ส.พิยดา โดยครอบครัวมั่นใจว่าน.ส.พิยดาไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย พร้อมพาดพิงถึงครอบครัวแฟนหนุ่มพิยดาด้วย

ล่าสุดรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์เปิดใจครอบครัวแฟนหนุ่มของพิยดาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแฟนหนุ่มเปิดใจว่ายืนยันไม่เกี่ยวกับการหลอกขายโอโฟน ก่อนหน้านี้พิยดาเคยทำลักษณะนี้มาแล้ว แต่สัญญาจะไม่ทำเช่นนี้อีก

กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง ทำให้ตอนนี้ตนและครอบครัวเครียดมาก เพราะถูกสังคมพิพากษาไปแล้วว่าโกงทั้งครอบครัว ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไร

เสียใจที่โดนพิยดาหลอกอีกครั้ง แม้ตอนนี้จะห่วงพิยดา แต่ก็ขอตัดใจ คงพอแล้ว เคยให้โอกาสมาแล้ว ไม่ขอทนแล้ว รอบที่แล้วก็แย่ รอบนี้แย่หนักกว่าเดิมอีก แฟนหนุ่มเปิดใจ

ด้านแม่ของแฟนหนุ่มพิยดา เปิดใจว่า ของแบรนด์เนมทั้งหมดที่ตำรวจยึดไปเป็นของพิยดา โดยตอนนั้นพิยดาอ้างตำรวจมาค้นเป็นคดีเก่า แม่จึงบอกไปว่าไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพิยดาจะอ้างว่ารายได้มาจากขายเสื้อผ้าออนไลน์

โดยเมื่อปี 62 เมื่อครั้งเคยอยู่บ้านแถวจรัญฯ ก็เคยถูกตำรวจมาค้นบ้านแล้วครั้งหนึ่งในอีกคดี ตอนนั้นอายมากที่โดนตำรวจมาค้น จึงต้องย้ายบ้าน ก่อนหน้านี้เคยสอนพิยดาอย่าไปโกงใคร เงินได้มาก็ใช้ไม่ได้ โดยพิยดาถือเป็นคน 2 บุคคลิก บางครั้งร่าเริงและบางครั้งก็เงียบ

ส่วนพ่อของแฟนหนุ่มพิยดา เผยว่า ตอนนี้เครียดมาก ยืนยันคนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นตำรวจออกหมายจับไปแล้ว ตอนนี้เร่งประสานกับปปง. เพื่อนำเอกสารไปยืนยันรายได้ และเงินในบัญชีหลักแสนบาท เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์คนในครอบครัว โดยขอย้ำอีกครั้งตัวเองไม่ผิด และลูกชายไม่มีส่วนรู้เห็นแน่นอน