เปิด 7 เรื่องจริงของ มิลลิ แร็ปเปอร์สาวสุดฮอตมาแรง
เปิดประวัติ 10 เรื่องจริงของ มิลลิ นักร้องสาวน้อยมากความสามารถและกระแสปังแบบไม่ไหวจริงๆ ที่ในนาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งประวัติที่ใครหลายๆคนยังไม่รู้นั้นจะมีอะไรกันบ้างมาชมกันเลยจ้า
1.ดนุภา คณาธีรกุล หรือ มิลลิ ซึ่งชื่อ มิลลิ คุณพ่อเป็นคนตั้งให้ โดยได้สอนให้เธอนั้น เป็นเหมือนน้ำ ที่ทำตัวไหลลื่น เพราะจะได้อยู่กับภาชนะไหนก็ได้ และนี่ก็คือคำที่คล้องจองเกี่ยวกับน้ำ แปลงมาจากคำว่า มิลลิลิตร นั่นเอง
2.เกิดที่กรุงเทพมหานคร เมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ปัจจุบันอายุ 19 ปี พื้นเพของครอบครัวมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เคยศึกษาที่โรงเรียนสตรีนนทบุรีและเคยได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนมาก่อน เธอฝึกการแร็ปมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
และเธอค้นพบว่าเธอมีความชื่นชอบในแนวดนตรีนี้ ทั้งนี้ เธอยังมีนิกกิ มินาจ แร็ปเปอร์หญิงชาวอเมริกันเป็นแรงบันดาลใจอีกด้วย ปัจจุบันศึกษาที่คณะดนตรี (Abac School of Music) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
3.เข้าสู่วงการจากการประกวดเดอะแร็ปเปอร์ ซีซันที่ 2 โดยเธอเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ถูกจับตามองจากผู้ชมและคณะกรรมการเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเธอมีสไตล์การร้องเพลงที่แหวกแนวกว่าผู้เข้าประกวดคนอื่น ๆ ต่อมาเธอเป็นศิลปินสังกัด YUPP ซึ่งเธอเป็นศิลปินหญิงและศิลปินหญิงเพียงคนเดียวของค่าย
4.เธอเปิดตัวด้วยซิงเกิล "พักก่อน" ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนที่โรงเรียน มีการใช้ภาษาลูซึ่งเป็นภาษายอดฮิตของเพศที่สาม รวมถึงมีการนำภาษาอังกฤษและภาษาไทยถิ่นอีสานมาใช้กับเพลงด้วย
ส่งผลให้เพลงนี้สร้างชื่อเสียงให้กับเธออย่างมากโดยหลังจากเปิดตัวไปเพียง 1 วัน มียอดผู้ชมจากยูทูปถึง 300,000 วิว ในขณะเดียวกันเพลงนี้ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ามีบางท่อนบางส่วนที่เป็นการเหยียดเพศหญิงด้วยกัน ซึ่งเธออกมาชี้แจงแล้วว่ามิได้มีเจตนาเหยียดแต่อย่างใด
5.ต่อมาเธอได้ออกซิงเกิลใหม่โดยใช้ชื่อเพลงว่า "สุดปัง" โดยครั้งนี้เธอได้ใช้ภาษาทั้งสี่ภาคในการร้อง และยังใช้ภาษาลู และอื่น โดยครั้งนี้เธอได้เล่าถึงความสวยและความฝันของเธอ โดยยอดผู้ชมในยูทูปถึง 39,139,323
6.เป็นสาวที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ค่าจ้างในการออกงานต่อครั้ง แบบเต็มวง และเต็มความสนุกนั้น ก็ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
7. เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคมที่ผ่านมานั้น เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.นางเลิ้ง
พร้อมทนายความส่วนตัว โดยตำรวจได้ตั้งข้อหา ข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และปรับเป็นเงิน 2,000 บาท