เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี รายงานกรณีหญิงวัย 90 ปี ในประเทศเบลเยียม ซึ่งยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

โดยแพทย์ตั้งข้อสงสัยว่า เธอติดโควิด 19 ซ้ำซ้อนจาก 2 สายพันธุ์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งคาดว่าได้รับมาจากบุคคล 2 คน ที่มีเชื้อไวรัสต่างสายพันธุ์กัน

โดยหญิงรายดังกล่าว เข้ารับการรักษาตัวหลังจากประสบอุบัติเหตุหกล้ม จากนั้นพบว่าระบบทางเดินหายใจมีอาการแย่ลง ก่อนที่ผลแล็บจะออกมาว่า เธอติดเชื้อโควิด 19 ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์พร้อมกัน ได้แก่ สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้)

ดร.แอนน์ แวนคีร์เบอร์เกน หัวหน้านักวิจัยจากโรงพยาบาล โอวีแอล ในเมืองอาลสต์ ประเทศเบลเยียม กล่าวว่า โควิด 19 ทั้ง 2 สายพันธุ์ กำลังแพร่ระบาดในเบลเยียมขณะนั้น

แต่ไม่ทราบว่าเธอติดเชื้อได้อย่างไร รวมทั้งการติดเชื้อร่วมของ 2 สายพันธุ์เช่นนี้ จะมีผลให้อาการของผู้ป่วยยิ่งทรุดตัวเร็วด้วยหรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้ในขณะนี้

เคสของหญิงรายดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นถกเถียง ในการประชุมสภาจุลชีววิทยาคลินิกและโรคติดเชื้อแห่งยุโรป ประจำปีนี้ โดยแม้ว่าการติดเชื้อ 2 สายพันธุ์ในเวลาเดียวกันเช่นนี้ จะมีความเป็นได้ยากและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ก็มีเคสที่มีลักษณะคล้ายกัน

โดยเมื่อเดือน มกราคม 2564 นักวิทยาศาสตร์ในบราซิลรายงานว่า มีผู้ป่วยจำนวน 2 ราย สงสัยว่าติดโควิด 19 ซ้ำซ้อน 2 สายพันธุ์ หนึ่งในนั้นเป็นสายพันธุ์แกมมา (บราซิล)

ขณะที่นักวิจัยในโปรตุเกส เพิ่งจะทำการรักษาหญิงวัย 17 ปี ที่พบว่าติดเชื้ออีกสายพันธุ์ ในขณะที่กำลังจะหายจากอีกสายพันธุ์ที่ต่างกัน