เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Saab JAS 39 Gripen (กริพเพน) รุ่น E และ F จำนวน 1 ฝูงบิน รวม 4 ลำ ตามข้อเสนอของกองทัพอากาศ (ทอ.) พร้อมกับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ตามที่กองทัพเรือเสนอ

โดยการจัดซื้อในระยะที่ 1 นี้ มีมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท เป็นไปตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายหลังจากที่มีการจัดทำรายละเอียดครบถ้วนแล้วในทุกขั้นตอนของโครงการจัดซื้อทั้ง 3 ระยะ

ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ดังกล่าว มีกำหนดการเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้า แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจากปัญหาเอกสาร จึงเลื่อนมาเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 5 สิงหาคมนี้

สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนเครื่องบิน F-16 เดิมนั้น เกิดขึ้นจากแนวทางที่กองทัพอากาศวางแผนไว้ล่วงหน้า เนื่องจากเครื่องบิน F-16 ของไทยจะทยอยปลดประจำการในช่วงปี 2571-2578 หลังจากประจำการมาแล้วกว่า 37 ปี

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากไม่มีการจัดหาเครื่องบินลำใหม่มาทดแทน จะส่งผลต่อความพร้อมด้านการป้องกันประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อภายใต้โครงการนี้

อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศได้ทำการคัดเลือกแบบเครื่องบินจากทั้งหมด 20 แบบ ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า Saab JAS 39 Gripen รุ่น E และ F จากประเทศสวีเดน เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยจะจัดซื้อจำนวน 12 ลำ รวม 3 ระยะ มูลค่าทั้งโครงการ 60,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 10 ปี (ภายในปี 2578) ซึ่งรูปแบบการจัดซื้อจะดำเนินการในลักษณะรัฐต่อรัฐ (G to G) กับรัฐบาลสวีเดน โดยในระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ มีกำหนดส่งมอบภายในปี 2572