เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้มีการรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา ทรงมีพระราชโองการมอบอำนาจให้ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน ซึ่งดำรงยศทางทหาร จอมพล 5 ดาวทองแห่งกองทัพกัมพูชาและดำรงตำแหน่ง ประธานองคมนตรีสูงสุดของพระมหากษัตริย์ สามารถติดต่อสื่อสารและหารือร่วมกับ สมเด็จมหาบวรธิบดีฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในเรื่องกิจการทหาร การป้องกันประเทศ การป้องกันอธิปไตยแห่งชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรกัมพูชา

ข้อความในพระราชสาส์นมีดังนี้

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช จอมพล 5 ดาวทองแห่งกองทัพกัมพูชา และประธานองคมนตรีสูงสุดของพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นที่เคารพรักอย่างสูงยิ่ง

สมเด็จมหาบวรธิบดี นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ผู้เป็นที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

ในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับการละเมิดและภัยคุกคามร้ายแรงต่อบูรณภาพแห่งดินแดนจากกองทัพไทย และบนพื้นฐานของเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ข้าพเจ้าขอพระราชทานสิทธิ์ มอบอำนาจให้ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน จอมพล 5 ดาวทองแห่งกองทัพกัมพูชา และประธานองคมนตรีสูงสุดของพระมหากษัตริย์ สามารถติดต่อสื่อสารและหารือร่วมกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในเรื่องกิจการทหาร การป้องกันประเทศ การป้องกันอธิปไตยแห่งชาติ และการป้องกันบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรกัมพูชา

ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้แสดงความชื่นชมและยกย่องอย่างสุดซึ้งต่อความกล้าหาญและวีรกรรมของวีรบุรุษกัมพูชาทุกท่านที่ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญและไม่ย่อท้อในสมรภูมิเพื่อการป้องกันประเทศ การป้องกันดินแดน และการปกป้องประชาชน รวมถึงประชาชนชาวกัมพูชาทั่วประเทศที่ได้รวมพลังเป็นปึกแผ่นอันแข็งแกร่ง และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายใต้การนำอันชาญฉลาดของรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา

โดยมี สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน เป็นผู้นำสูงสุดในการต่อสู้และอดทนในทุกสมรภูมิ ทั้งทางการทหาร การทูต การเมือง และทางกฎหมาย เพื่อปกป้องประเทศ ปกป้องอธิปไตยแห่งชาติ คุ้มครองบูรณภาพแห่งดินแดน และปกป้องประชาชนชาวกัมพูชาของเรา

ปรมาภิไธย

นโรดม สีหมุนี

พระราชวังพนมเปญ

ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2568

ปล : ตามรัฐธรรมนูญของกัมพูชา ไม่อนุญาตให้ประธานองคมนตรี หรือ ประธานพฤฒสภา เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดง่ายๆ คือ ไม่ต้องการให้สถานบันกษัตริย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่ต้องการประธานสภาสูง (ประธาน สว.) หรือ ประธานพฤฒสภา ฝ่ายนิติบัญญัติเข้าไปแทรกแซงฝ่ายบริหาร ฉะนั้นต้องให้กษัตริย์เป็นผู้อนุมัติ เพราะกษัตริย์อยู่เหนือกว่ารัฐธรรมนูญ ประมาณนี้ 555 ย้อนแย้งนะ 555