
ชาวบ้านผงะ! พบร่างชายปริศนา เสียชีวิตกลางป่าดอยสุเทพ ภรรยาร่ำไห้ทันทีที่เห็นของในเป้
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ร่วมกับตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 1 และชมรมกู้ภัยทางสูงประเทศไทย เดินเท้าเข้าป่าด้านหลังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ลึกเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบร่างชายไม่ทราบชื่อ หลังมีชาวบ้านที่เข้าไปหาเห็ดพบร่างผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ สภาพสวมชุดเดินป่า เสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีดำ และอยู่ห่างจากร่างผู้เสียชีวิตประมาณ 10 เมตร พบกระเป๋าเป้สีดำ ภายในมีเสื้อผ้า อุปกรณ์เดินป่า รองเท้า และน้ำดื่มที่ยังไม่ได้เปิดใช้ อย่างไรก็ตาม ไม่พบเอกสารแสดงตนหรือโทรศัพท์มือถือในที่เกิดเหตุ
นางสาวจิตราภรณ์ กันธิ ผู้ใหญ่บ้านดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเรื่องพบเหตุมีผู้เสียชีวิต จึงได้โพสต์ตามหาญาติผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีหญิงรายหนึ่งติดต่อเข้ามาพร้อมกับยืนยันว่า กระเป๋าและของใช้ภายในเป็นของสามีที่หายตัวไปจากจังหวัดชลบุรี เมื่อญาติเดินทางมาถึง ก็ถึงกับร่ำไห้เมื่อเห็นภาพและยืนยันว่าเป็นของที่ตนได้ซื้อให้สามีเอง
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านระบุว่า ผู้เสียชีวิตอายุ 31 ปี มีปัญหาครอบครัวและเพิ่งเลิกรากับภรรยา เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้เดินทางจากจังหวัดชลบุรีมายังกรุงเทพฯ และทิ้งรถ โทรศัพท์มือถือ และเอกสารส่วนตัวไว้ ก่อนจะเดินทางด้วยรถไฟไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยได้แวะที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อยืมโทรศัพท์ทนายความอาสา โทรหาภรรยาเป็นครั้งสุดท้ายว่าให้แจ้งความคนหายได้เลย หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อ
ด้านภรรยาผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สามีชื่นชอบการเดินป่า และมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต โดยจุดพบร่างอยู่ห่างจากเส้นทางเทรลหลักประมาณ 700 เมตร เชื่อว่าผู้เสียชีวิตอาจเดินออกนอกเส้นทางเข้าสู่ป่าลึกด้วยตนเอง ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันและรกทึบในช่วงฤดูฝน
อย่างไรก็ตาม ด้าน ร.ต.อ.สมโภช น้อยคง พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้แน่ชัด ต้องรอผลชันสูตรจากแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป