กมธ. ปปง. เดินหน้าติดตามคดีฟอกเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ ย้ำทุกคดีต้องโปร่งใสและเป็นธรรม

กมธ. ปปง. เดินหน้าติดตามคดีฟอกเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ ย้ำทุกคดีต้องโปร่งใสและเป็นธรรม

กมธ. การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงความคืบหน้าคดีฟอกเงินอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ด ที่มีมูลเหตุจากเครือข่ายพนันออนไลน์ พร้อมตั้งคำถามถึงคำสั่ง “ไม่ฟ้อง” ทั้งที่ตำรวจมีความเห็นให้สั่งฟ้อง ขณะเดียวกันเตรียมเชิญสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมประชุมในครั้งต่อไปเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 308 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการฯ ได้ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฟอกเงินของอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ด ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์

ที่ประชุมได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยมีประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามคือ คำสั่ง "ไม่ฟ้อง" ของพนักงานอัยการในคดีนี้ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องและมีการตั้งข้อหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งคำถามต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเจาะลึก ทั้งในเรื่องของกระบวนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน การอายัดทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมถึงความชัดเจนของพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน

ที่น่าสนใจคือ ที่ประชุมได้มีการเปรียบเทียบระหว่างคดีนี้กับคดีของอดีตประธานสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ ซึ่งมีพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน แต่คดีของลำพูน วอริเออร์ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 221 รายการ มูลค่ารวมกว่า 671 ล้านบาท ในขณะที่คดีของนครศรียูไนเต็ดกลับยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ได้กล่าวในที่ประชุมว่า การดำเนินคดีและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากประชาชนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากเว็บพนันออนไลน์ การสร้างความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นการทวงคืนความเชื่อมั่นของสังคมในหลักนิติธรรมที่แท้จริง เพื่อความครบถ้วนของข้อมูล ที่ประชุมจึงมีมติให้เชิญตัวแทนจาก สำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมชี้แจงในครั้งต่อไป เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาคดีและดุลพินิจในการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สาธารณชนกำลังให้ความสนใจ

การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงบทบาทของคณะกรรมาธิการฯ ในการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเพื่อประโยชน์ของประชาชน พร้อมทั้งย้ำว่า "คดีนี้คือกระจกสะท้อนความเข้มแข็งของกระบวนการยุติธรรมไทย" และคณะกรรมาธิการฯ จะไม่ปล่อยให้คำถามสำคัญในสังคมถูกปัดผ่านไปโดยไร้คำตอบ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ