แฉพิรุธแผนกัมพูชา ใช้โล่มนุษย์ พบเคลื่อนย้ายอาวุธหนักปะปนผู้อพยพ โจมตีพลเรือนไทย

แฉพิรุธแผนกัมพูชา ใช้โล่มนุษย์ พบเคลื่อนย้ายอาวุธหนักปะปนผู้อพยพ โจมตีพลเรือนไทย

ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่ยังคงตึงเครียด โซเชียลมีเดียได้เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอที่สร้างความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจใช้กลยุทธ์ โล่มนุษย์ และโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างไม่มีมนุษยธรรม

มีภาพการอพยพของกลุ่มชาวกัมพูชา ซึ่งปรากฏภาพทหารกัมพูชาเคลื่อนย้ายอาวุธหนักปะปนไปกับกลุ่มผู้อพยพ ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามใช้พลเรือนเป็นเกราะป้องกันการโจมตีตอบโต้จากฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม

นอกจากนี้ เพจ Army Military Force - สำรอง ยังได้โพสต์คลิปเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 แสดงให้เห็นถึงการที่ทหารกัมพูชา ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ขนาด 122 มม. จากพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ฝั่งกัมพูชา เข้ามายังจังหวัดสุรินทร์ของไทย โดยมีเป้าหมายโจมตีแหล่งชุมชนพลเรือนบริสุทธิ์ตามแนวชายแดนไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Army Military Force - สำรอง

อีกคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นพฤติกรรมความเจ้าเล่ห์ของฝ่ายกัมพูชา โดยมีรถยิงจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ถูกนำมาตั้งไว้บริเวณชุมชน และค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำเช่นนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกฝ่ายไทยยิงตอบโต้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่พลเรือน

นอกจากนี้ ยังมีภาพที่แสดงให้เห็นวัตถุคล้ายลำกล้องรถยิงจรวด BM-21 แอบแฝงอยู่ท่ามกลางกลุ่มชาวกัมพูชาที่กำลังอพยพลี้ภัย ซึ่งถูกจับพิรุธว่าเป็นการพรางตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับพิกัดโจมตีจากกองทัพอากาศไทยแม้ในสถานการณ์การสู้รบที่ทหารของทั้งสองประเทศต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังและเสียสละชีพเพื่อประเทศชาติ แต่หลักมนุษยธรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องยึดถือ

ในช่วงเย็นของวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมสากล โดยส่งมอบร่างทหารกัมพูชา 12 นาย ที่เสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่ภูมะเขือ ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา บริเวณหน้าจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในแผ่นดินเกิด ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิ ไม่ว่าจะสังกัดฝ่ายใดก็ตาม

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Army Military Force - สำรอง

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Army Military Force - สำรอง

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ