นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. ระบุว่า มีสถานพยาบาลและโรงพยาบาลใน 4 จังหวัดได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 11 แห่ง ส่งผลให้บางส่วนต้องปิดให้บริการชั่วคราวหรือปิดบริการทั้งหมด

1.จังหวัดอุบลราชธานี: ได้รับผลกระทบ 3 แห่ง โดย โรงพยาบาลนาจะหลวย ปิดให้บริการเฉพาะห้องฉุกเฉิน และ โรงพยาบาลน้ำขุ่น, โรงพยาบาลน้ำยืน ปิดให้บริการทั้งหมด

2.จังหวัดศรีสะเกษ: ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง โดย โรงพยาบาลกันทรลักษ์, โรงพยาบาลภูสิงห์ ปิดให้บริการทั้งหมด

3.จังหวัดสุรินทร์: ได้รับผลกระทบ 4 แห่ง โดย โรงพยาบาลปราสาท, โรงพยาบาลสังขะ ปิดบริการบางส่วน และ โรงพยาบาลกาบเชิง, โรงพยาบาลพนมดงรัก ปิดให้บริการทั้งหมด

4.จังหวัดบุรีรัมย์: ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง โดย โรงพยาบาลละหานทราย, โรงพยาบาลประโคนชัย ปิดบริการบางส่วน และ โรงพยาบาลบ้านกรวด ปิดให้บริการทั้งหมด

นายแพทย์วรตม์กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวอยู่ที่ 14 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 31 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บรุนแรง (สีแดง) 7 ราย, บาดเจ็บปานกลาง (สีเหลือง) 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย (สีเขียว) 11 ราย สำหรับกำลังพลทหาร มีรายงานทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บรุนแรง 6 นาย บาดเจ็บปานกลาง 6 นาย และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย

นอกจากนี้ ยังมีการอพยพผู้ป่วยในของโรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 292 ราย และมีการอพยพประชาชนทั่วไปออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วจำนวนมหาศาลถึง 131,456 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและผลกระทบในวงกว้างของสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป