เมื่อ 20 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กลายเป็นจุดเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดทางชายแดน เมื่อนักท่องเที่ยวกัมพูชาเข้ามาแสดงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่โบราณสถานสำคัญของไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยก็เดินทางมาเยือนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ระหว่างที่นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเดินทางชมปราสาทตาควาย หญิงชาวกัมพูชาคนหนึ่งได้ทำพิธีบางอย่างกลางบริเวณปราสาท พร้อมกับกล่าวคำสาปแช่งด้วยถ้อยคำรุนแรงที่มีเจตนาแสดงความเกลียดชังต่อคนไทย ทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้นเกิดความเงียบชั่วคราว มีทั้งความตกใจและความไม่พอใจจากผู้ที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีตอบโต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ในบริเวณดังกล่าว หลังจากนั้นชายชาวกัมพูชาอีกคนได้ทำพิธีขับไล่ สิ่งไม่ดี ด้วยการพ่นสเปรย์ไปยังพื้นที่รอบๆ ปราสาท

ความวุ่นวายยังไม่จบลงที่นั่น เมื่อถึงบริเวณศิลาศิวลึงค์ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์รวมความศรัทธาของนักท่องเที่ยว ชาวกัมพูชาหลายคนได้กราบไหว้และวางเงินบูชาไว้บนตู้ ข้างศิวลึงค์ และบนพื้นหิน ทว่ากลับมีเด็กชาย 2 คน ซึ่งเป็นลูกของทหารกัมพูชาฝั่งชายแดน เดินเข้ามาเก็บเงินเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ เกือบทุกวัน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารไทยยืนยันว่าพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ไทยพยายามเข้าไปห้าม เด็กทั้งสองกลับได้รับการปกป้องจากผู้ใหญ่ชาวกัมพูชา ที่ตะโกนขู่และโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ไทยเสียงดังข้ามชายแดน สร้างความเกรงใจและไม่กล้าดำเนินการใดๆ จากฝั่งไทย เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นความขัดแย้งข้ามชาติในเรื่อง ไทยรังแกเด็ก

นักท่องเที่ยวชาวไทยจาก จ.จันทบุรี ที่มาเยือนและเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยด้วยว่า การทำงานของทหารไทยในพื้นที่ชายแดนนั้นต้องอดทนต่อสถานการณ์ และเต็มไปด้วยความกดดัน ซึ่งคนภายนอกอาจจะไม่เข้าใจ นี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการท่องเที่ยว แต่สะท้อนภาพของเกมอำนาจและความละเอียดอ่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความศรัทธาและเด็กไร้เดียงสาในพื้นที่ชายแดน