ต้องบอกเลยว่า กลายเป็นกระแสข่าวที่เขย่าวงการสงฆ์ไทยอย่างรุนแรง สำหรับกรณีของ สีกากอล์ฟ หญิงสาวจากจังหวัดพิจิตรที่มีข่าวเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป จนได้รับฉายาจากสื่อว่า นารีพิฆาตพระ

ตามรายงานข่าว สีกากอล์ฟเริ่มต้นจากการเข้าวัดทำบุญ และใช้ความศรัทธาเป็นสะพานในการสร้างความใกล้ชิดกับพระสงฆ์ จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอดีตพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป โดยเฉพาะอดีตเจ้าคุณอาชว์ หรือพระเทพวชิรปาโมกข์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร

สีกากอล์ฟได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ ถึงเรื่องแบล็กเมล เรียกเงิน จากพระผู้ใหญ่ โดยระบุว่าหลายเรื่องที่ถูกกล่าวหานั้น ไม่เป็นความจริง พร้อมชี้แจงเป็นรายกรณี เช่น

กรณีพระที่เซ็นรับรองบุตร เธอยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และพร้อมให้ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์

กรณีอดีตพระอีกรูปที่แต่งงานด้วย ย้ำว่ารู้จักกันหลังสึกแล้ว

กรณีเจ้าคณะจังหวัด เธอระบุว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ นอกเหนือจากการทำบุญ

พร้อมยืนยันว่า ทุกกรณีที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะลูกทั้งสามคนที่ต้องเผชิญแรงกดดันทางสังคม

ทั้งนี้เจ้าตัวยังเปิดใจเล่าว่า รู้จักกับทิดประดิษฐ์ ผ่านเฟซบุ๊กในปี 2562 และคุยผ่านไลน์ ก่อนจะไปเที่ยวที่วัด สำหรับความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าอาวาสพระพุทธฉาย เราคบหาแบบชู้สาวปกติ มีบางช่วงที่ท่านหายไปบ้าง 4-5 เดือน และมาล่าสุดวันที่ 9 เม.ย.2567 เราได้ไปหาท่านที่วัด เพราะท่านหายไป วันนั้นก็เจอกัน พร้อมกรรมการวัด โดยกรรมการวัดไม่ให้เข้าพบ ก่อนหลวงพ่อจะออกมาและชวนไปขับรถเล่นกัน โดยมีน้องชายและลูกไปด้วย

ยืนยันไม่ได้อยากได้เงินท่าน เพราะวัดท่านไม่มีเงิน เราก็ไม่ได้อยากได้เงินอยู่แล้ว วันนั้นคุยในรถ 10-20 นาที เราจึงอยากช่วยเหลือเดือนละ 1 แสนบาท ที่ทำให้เพราะเรารักและเคารพ โดยให้ในฐานะแฟน ไหนๆ ท่านก็สึกไปแล้วเลยขอพูด โดยเราหยิบเงินสดให้เลย เพราะรู้วัดของท่านไม่มีเงิน หลังจากนั้นก็แยกย้าย โดยเราก็คุยและคบกันเรื่อยมา ซึ่งเราให้เงินเดือนละ 1 แสนบาท โดยบางครั้งให้เงินสดและโอนเข้าบัญชีของท่าน

ท่านเคยบอกท่านเป็นหนี้ 1 ล้านกว่าบาท จากการจัดงานศพของพระอุปัชฌาย์ เราจึงให้เงินไปเดือนละ 1 แสน แต่ให้เงินไปแค่ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น โดยเรามีเงินและได้เงินจากการเล่นการพนัน เป็นเงินหมุนด้วย อีกทั้งช่วงนั้นอาร์ตทอยกำลังฮิตด้วย จึงซื้อมาและขายไป ทำให้มีเงิน สีกากอล์ฟกล่าว