เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เดินทางเข้าพบ พระเทพภาวนาวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เพื่อชี้แจงข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ สีกากอล์ฟ โดยพบว่ามีพฤติกรรมลึกซึ้งเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ขั้นปาราชิก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้อดีตพระครูสิริวิริยธาดาได้ ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทราบดีว่าตนต้องลาสิกขา และในวันนี้ที่ตำรวจเข้าพบเจ้าอาวาส ก็เพื่อ ประสานให้เชิญตัวอดีตพระรูปดังกล่าวมาให้ข้อมูล แม้จะสึกไปแล้ว เพราะข้อมูลจากเจ้าตัวยังมีประโยชน์ในการดำเนินคดีกับ สีกากอล์ฟ ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา ตำรวจจึงต้องประสานผ่านทางวัดและเจ้าอาวาส

ในส่วนของหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ตำรวจได้มีการประสานกับทางวัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสหลบหนี โดยพฤติกรรมของอดีตพระรูปนี้ มีลักษณะคล้ายกับพระรูปอื่น ๆ ที่เคยปรากฏเป็นข่าว คือ ถูกถ่ายรูปและคลิปเสียงไว้ ส่วนรายละเอียดเรื่องการถูกเรียกเงินหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวน

สำหรับ สีกากอล์ฟ ขณะนี้พบหลักฐานเพียงว่า ก่อเหตุโดยลำพัง แต่อาจมีผู้เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือ เช่น ขับรถพาไปส่ง หรือร่วมรับประทานอาหารก่อนลงมือ แต่ยังไม่พบว่ามีการจ้างหญิงคนอื่นไปก่อเหตุแทนเพื่อแบล็กเมล์พระแต่อย่างใด โดย รอง ผบช.ก. ยังระบุว่า ขณะนี้จะมุ่งดำเนินการด้านวินัยสงฆ์ก่อน ส่วนคดีอาญาจะดำเนินการในลำดับถัดไป ตำรวจจะประสานไปยังเจ้าอาวาสวัดต่างๆ รวมถึงบุคคลใกล้ชิดของพระที่สึกไป เพื่อขอความร่วมมือในการเชิญตัวมาให้ข้อมูล แม้ขณะนี้หลายรูปยังอยู่ในช่วงตั้งสติ และอาจยังไม่พร้อมให้ความร่วมมือ

ทั้งนี้ การดำเนินการใด ๆ เช่น ออกหมายเรียก จะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีได้ หากสามารถเจรจาและนำข้อมูลมาใช้เป็นประโยชน์ได้ ตำรวจก็จะดำเนินการอย่างเหมาะสม โดยวันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ และผู้ที่ช่วยประสานงานกับอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ซึ่งคาดว่าอาจมีการเจรจากันเพิ่มเติมเพื่อโน้มน้าวให้อดีตพระรูปดังกล่าวเข้าให้ข้อมูล เนื่องจาก สีกากอล์ฟ ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อพระพุทธศาสนา หากปล่อยไว้ อาจสร้างความเสียหายยิ่งกว่าเดิม

ด้าน พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ไวยาวัจกรวัดโสธรฯ ให้ข้อมูลว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หรือ บิ๊กเต่า เดินทางมาพบเจ้าอาวาสเพื่อชี้แจงพฤติกรรมของอดีตพระครูสิริวิริยธาดา เพราะที่ผ่านมาท่านเจ้าอาวาสไม่เคยทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ ทราบเพียงจากข่าวสื่อเท่านั้น

พล.ต.ท.พิสัณห์ ยอมรับว่า เจ้าอาวาสเคยพบ สีกากอล์ฟ เพียงครั้งเดียวในปี 2565 ซึ่งอดีตพระครูสิริวิริยธาดาเป็นผู้นำมาถวายสังฆทานที่กุฏิ หลังจากนั้นก็ไม่เคยพบอีก โดยไม่สามารถยืนยันได้ว่าสีกากอล์ฟกลับมาที่วัดอีกหรือไม่ ถึงแม้ว่าวัดจะมีกล้องวงจรปิดหลายจุด แต่ บริเวณกุฏิของอดีตพระครูสิริวิริยธาดาไม่มีการติดตั้งกล้อง

พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าในวันนี้ วัดยังไม่ได้มอบเอกสารหรือข้อมูลใดให้ตำรวจ เพียงแค่ช่วยประสานให้เจ้าอาวาสและไวยาวัจกร ติดต่ออดีตพระครูสิริวิริยธาดาให้มาให้ข้อมูล เนื่องจากเชื่อว่าสีกากอล์ฟน่าจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับพระหลายรูป โดยมีลักษณะคล้ายการกรรโชกทรัพย์ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าคุณอาชว์

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยัง ไม่มีพระรูปใดออกมาให้ข้อมูล และทางวัดก็ไม่สามารถติดต่ออดีตพระครูสิริวิริยธาดาโดยตรงได้ มีเพียงการส่งข้อความและรูปถ่ายมายังพระเลขาเจ้าอาวาส เพื่อแจ้งว่าได้ลาสิกขาแล้วที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทาง พล.ต.ท.พิสัณห์ ยืนยันว่า อดีตพระครูสิริวิริยธาดา มีหน้าที่เพียงด้านการอบรมและเทศนา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานการเงินของวัด ซึ่งมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยมีไวยาวัจกร 2 คนที่เป็นอดีตผู้จัดการธนาคาร คอยดูแลเส้นทางการเงินทั้งหมด พร้อมนโยบายส่งเสริมให้ญาติโยมทำบุญผ่าน QR Code และในกรณีเงินสด จะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้ามารับเงินที่วัดทุกเย็น ดังนั้น จึงไม่มีทางที่เงินจะรั่วไหลไปถึงบัญชีของพระรูปใด หรือสีกากอล์ฟ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เจ้าอาวาสไม่ได้เครียดจากเหตุการณ์ เพียงแค่รับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนเรื่องชื่อเสียงของวัดก็มองว่าไม่ได้กระทบ แต่มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับวัดอย่างแน่นอน

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์