ลูกหนี้มีเฮ คุณสู้ เราช่วย เฟส 2 ต่อเวลาถึง 30 ก.ย. 2568 เพิ่มคุณสมบัติ

ลูกหนี้มีเฮ คุณสู้ เราช่วย เฟส 2 ต่อเวลาถึง 30 ก.ย. 2568 เพิ่มคุณสมบัติ

เพราะโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 เป็นการร่วมมือกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) บางแห่ง ออกมาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs เฉพาะกลุ่ม ภายใต้โครงการ คุณสู้ เราช่วย

โดยการช่วยเหลือจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ Non-Bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2568 มีลูกหนี้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 และอยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิ์แล้วทั้งสิ้นกว่า 1.4 ล้านราย คิดเป็นจำนวนบัญชีกว่า 1.9 ล้านบัญชี สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนจำนวนมากที่ต้องการปลดหนี้

3 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้

โครงการคุณสู้ เราช่วย มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้แบ่งออกเป็น 3 มาตรการด้วยกัน คือ

มาตรการที่ 1 จ่ายตรง คงทรัพย์ มุ่งเน้นช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็กที่มีวงเงินไม่สูงมาก และเคยมีประวัติค้างชำระเกินกว่า 30 วัน จนถึง 365 วัน หรือเคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้เนื่องจากค้างชำระเกินกว่า 30 วัน ผ่านการลดค่างวด เน้นตัดเงินต้น และพักภาระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการยกเว้นหากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ตลอดระยะเวลาของมาตรการ

มาตรการที่ 2 จ่าย ปิด จบ เพื่อช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่สูง (ไม่เกิน 5,000 บาท) โดยให้ลูกหนี้ชำระหนี้เพียงบางส่วนของยอดหนี้คงค้างเพื่อปิดหนี้ได้ทันที

มาตรการที่ 3 ลดผ่อน ลดดอก ซึ่งเป็นการลดภาระการผ่อนชำระ และลดดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคของ Non-banks

ขยายคุณสมบัติลูกหนี้

เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบคลุมไปยังลูกหนี้ทุกกลุ่มและมีมาตรการช่วยเหลือที่หลากหลายมากขึ้น กระทรวงการคลังร่วมกับ ธปท. ได้เสนอแนวทางการขยายคุณสมบัติของลูกหนี้ภายใต้โครงการ คุณสู้ เราช่วย เฟส 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยมีแนวทางสรุปได้ ดังนี้

การขยายคุณสมบัติลูกหนี้ของมาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ ให้รวมถึงลูกหนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 365 วัน และลูกหนี้ที่ค้างชำระน้อยกว่า 30 วัน แต่เคยมีการปรับโครงสร้างหนี้

การขยายยอดคงค้างหนี้และประเภทหนี้ตามมาตรการจ่าย ปิด จบ ให้ครอบคลุมภาระหนี้จำนวน 10,000 บาท หากเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) และ 30,000 บาท หากเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Secured Loan)

การเพิ่ม “มาตรการจ่าย ตัด ต้น” เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้ NPLs ซึ่งมีสินเชื่อไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) ที่มียอดหนี้คงค้างไม่เกิน 50,000 บาทต่อบัญชี โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีเงื่อนไขเป็นการผ่อนชำระคืนเป็นงวด (Term Loan) และกำหนดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำที่ร้อยละ 2 ของยอดคงค้าง เป็นระยะเวลา 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยให้หากลูกหนี้สามารถทำตามเงื่อนไขของมาตรการได้ครบ 3 ปี

ทั้งนี้ คาดว่าการขยายคุณสมบัติของลูกหนี้ตามโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 จะช่วยเหลือลูกหนี้ได้เพิ่มเติมอีกกว่า 1.8 ล้านราย หรือ 2.0 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 310,000 ล้านบาท

การขยายคุณสมบัติโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 ยังคงหลักการสำคัญเช่นเดียวกับการดำเนินโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟสแรก คือ

ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้หนี้

เป็นมาตรการเฉพาะกลุ่มที่เน้นช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่มีโอกาสรอดให้สามารถฟื้นตัวกลับมาชำระหนี้ได้ หรือกลับมาเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้

เป็นมาตรการที่มีแนวทางป้องกันมิให้ลูกหนี้เสียวินัยในการชำระหนี้ (Moral Hazard) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม ให้ลูกหนี้กลับเป็นลูกหนี้สถานะปกติและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสภาพคล่องและเงินทุนในอนาคตได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ