
ศาลยกฟ้อง รังสิมันต์ โรม คดีหมิ่นฯ อดีต สว.อุปกิต กล่าวหา เกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติด
วันนี้ (25 มิ.ย. 68) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกศาล ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ1743/66 ที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสว.เป็นโจทก์ ฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) เป็นจำเลยควา ผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 นายรังสิมันต์ โรม ได้แถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล พาดพิงถึงนายอุปกิต โจทก์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีการไลฟ์สดผ่าน Facebook ของพรรคก้าวไกลและแชร์ไปยัง Facebook ส่วนตัวของรังสิมันต์โรม
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการแถลงข่าวของโจทก์ในฐานะส.ส. เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบโจทก์ซึ่งเป็นส.ว. ตำแหน่งที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและประชาชนย่อมสามารถตรวจสอบได้เพราะโจทก์ถือเป็นบุคคลสาธารณะ การกระทำใดที่สูญเสียตอบการผิดกฎหมายโดยเฉพาะปัญหายาเสพติดซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่จะปราบปรามยาเสพติด การแถลงข่าวของจำเลยเป็นการทำหน้าที่แจ้งข่าวเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ชอบมาพากลและมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นต่อบุคคลสาธารณะที่ทำหน้าที่ในการบริหารราชการและมีตำแหน่งสำคัญ
ต่อมา อัยการได้ยื่นฟ้องโจทก์ต่อศาลอาญาแม้ว่าศาลอาญาจะยกฟ้องโจทก์ แต่ก็ยังมีการยื่นอุทธรณ์อยู่ การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็น โดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะย่อมสามารถวิพากษ์วิจารณ์และต้องถูกตรวจสอบได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์พิพากษายกฟ้อง
สำหรับกรณีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายน นี้ ตนมองว่าในเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิ์ของประชาชน ที่สามารถแสดงออกตามรัฐธรรมนูญได้ แต่การกระทำดังกล่าวจะต้องมีขอบเขตภายใต้กฎหมายโดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนหรือผลกระทบให้กับประชาชนทั่วไป ส่วนตัวยังคงทำหน้าที่ส.ส. และยังไม่มีใครติดต่อหรือส่งเทียบเชิญมาให้เข้าร่วมการชุมนุม ส่วนถ้ามีการเชิญให้เข้าไปร่วมชุมนุมในวันที่ 28 ก็ต้องดูก่อนว่าในวันดังกล่าวว่างหรือไม่หรือมีภารกิจใดหรือไม่
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยได้มีการล่ารายชื่อสอสอเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รังสิมันต์โรมมองว่าในเรื่องดังกล่าว ไม่ทราบเจตนาของทางพรรคภูมิใจไทย ว่าเหตุใดจึงเร่งรัด เนื่องจากการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นการปิดโอกาสไม่ให้นายกยุบสภา เพราะผิดจากเจตนารมย์ของประชาชน พรรคประชาชนที่ ต้องการให้นายกรัฐมนตรียุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นคงจะต้องมีการหารือกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะจะต้องมีรายละเอียดในหลายขั้นตอน พร้อมกับย้ำว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะเป็นความตั้งใจของพรรคประชาชนอยู่แล้ว
สำหรับพรรคภูมิใจไทยที่ ไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐบาล ขณะนี้ ก็ยังไม่มีการพูดคุยแต่เชื่อว่าหลังจากนี้ทางหัวหน้าพรรค จะต้องมีการเจรจาหรือพูดคุยในรายละเอียด เพราะพรรคประชาชนทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านมาแล้วถึงสองปี มีความเข้าใจขั้นตอนของการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน