
ทิดแย้มและสีกาคนสนิท ถูกคุมตัวฝากขังศาลอาญาทุจริตฯ ย้ำคัดค้านประกันตัว หลักฐานชัด
วันนี้ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. บรรดาพระลูกวัดไร่ขิง จำนวน 6 รูป และลูกศิษย์ นำข้าวต้มซึ่งเป็นอาหารเช้ามาเยี่ยมทิดแย้ม และ ยาประจำตัวรักษาโรคความดันโลหิตสูงมาให้ทิดแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรักษาการณ์ สแกนหน้าทุกคนขออนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมในช่วงเช้าระหว่างเวลา 08.00-09.00 น.
นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าอาคารทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรั้วเหล็กมาตั้งกั้นพื้นที่ทางเดินเข้าออกศูนย์ ฯ เพื่อรอเวลานำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งหลังจากที่พระลูกวัดและลูกศิษย์กลับออกมาจากการเยี่ยมทิดแย้ม ในเวลา 08.35 น. ทางผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถามว่า จากการที่เข้าไปเยี่ยมทิดแย้ม ได้มีการพูดคุยอะไรกันหรือไม่ ทิดแย้ม ยังมีอาการกังวล หรือไม่ และตลอดช่วงที่มีการพูดคุยกันทิดแย้มกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ก่อนที่หนึ่งในลูกศิษย์จะบอกว่าวันนี้เป็นเพียงการนำอาหารมาเยี่ยม และนำยารักษาโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงมาให้ โดยช่วงระยะเวลาที่เข้าเยี่ยมเพียงไม่นาน จึงไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน และทางทิดแย้มก็ไม่ได้พูดกำชับเรื่องอะไร ก่อนที่จะรีบขึ้นไปบนรถตู้ ขณะเดียวกันพระลูกวัดทั้ง 6 รูป ที่เข้าไปพบทิดแย้มในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา เห็นสภาพทิดแย้มแล้วเกิดความหดหูจนบางรูปกลั้นน้ำตาไม่อยู่ร้องไห้ออกมาด้วยความสงสาร
มีรายงานว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมชัดเจนว่า นายแย้ม ได้ยักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการส่วนตัว ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัด โดย จากการตรวจสอบเอกสารที่ทางตำรวจได้มีการตรวจค้นภายในวัดและ บ้านของลูกศิษย์ที่เป็นคู่ใกล้ชิดกับนายแย้ม และอีกหลายจุดที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงพบเอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ชัดเจน เนื่องจากว่าต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า หลักฐานการโอนเงินเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในเรื่องใด ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าเอาไปใช้ในเรื่องของการใช้จ่ายภายในวัด ประกอบกับ การสอบปากคำบุคคลใกล้ชิดของนายแย้ม พบว่า อดีตพระแย้ม เคยให้เงินสด พยานซึ่งเป็นบุคคลรายนี้ เพื่อนำไปฝากเข้าบัญชีของสาวคนสนิท ซึ่งทางพยานยืนยันว่า เงินที่โอนเข้าไปในบัญชีของสาวคนสนิทบุคคลนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายภายในวัด แต่อย่างใด ดังนั้น ขณะนี้มีรายงานที่ชัดเจนว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจสอบสวนกลางมีอยู่ในมือนั้นมีความชัดเจนว่า นายแย้ม เป็นผู้กระทำความผิดจริง ขณะเดียวกันทางด้านของพลตำรวจเอกกิตยัสถ์ พันธ์เพชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการสั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางขยายผลเส้นเงินจากบัญชีของวัดไปยังเงินต้นทางของ เงินที่ไหลเข้าบัญชี ว่ารับมาจากไหนเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของเงินว่าได้มาจากแหล่งใด
เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายแย้มและ
สีกาคนสนิท ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงให้การภาคเสธ
ต่อมาเวลา 10.39 น. ทางพนักงานสอบสวนได้คุมตัวทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมด้วย สีกาคนสนิทออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา อาคารศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะนำตัวทั้ง 2 คน ขึ้นรถตู้นำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน
โดยในระหว่างที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อไปขึ้นรถตู้ ทางด้านสีกาคนสนิท สวมเสื้อคลุมสีชมพู กางเกงสีน้ำตาล สวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า และใส่แว่นตาดำ ถือถุงพลาสติก ซึ่งภายในมีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว ตลอดช่วงเวลาที่เดินไปขึ้นรถมีท่าทีที่นิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ ซึ่งเมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ ทางทิดแย้มยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดยพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีคัดค้าน การประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่น ผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทางด้านทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ ได้เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมยื่นขอประกันตัวทิดแย้ม เช่นเดียวกับสีกาคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน
ภาพข่าว
ภาพข่าว
ภาพข่าว
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน