
รวบสาวแสบหลอกลงทุนทองคำแท่งและทองรูปพรรณ อ้างผลตอบแทนสูงสุด 200% เหยื่อเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม น.ส.พัชรีฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.335/2562 ลงวันที่ 28 พ.ค.62 เพื่อดำเนินคดีในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ"
พฤติการณ์ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันชักชวนประชาชนทั่วไปให้ร่วมลงทุนธุรกิจทองคำแปรสภาพจากทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณออนไลน์โดยใช้ชื่อไลน์ว่า “รักกี้ นับเบอร์” โดยให้ผู้สนใจเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์ open chat ชื่อ “เวลาที่ทุกคนรอคอย” หรือ “เวลาที่รอคอย” ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์พูดคุยสนทนากันเกี่ยวกับกิจกรรมการทำธุรกิจและการลงทุน มีการโพสต์ข้อความชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนธุรกิจทองคำโดยแปรสภาพจากทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณ และพาผู้ร่วมลงทุนไปเยี่ยมชมกิจการโรงงานย่านถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งมีการส่งรูปแบบการลงทุนในแบบต่างๆให้สมาชิกในกลุ่มไลน์เลือกลงทุน โดยมีการเสนอผลตอบแทนสูงสุดถึงประมาณ 200 เปอร์เซนต์ต่อปี โดยในช่วงแรกมีการจ่ายเงินผลตอบแทนให้จริง แต่ต่อมาผู้เสียหายไม่ได้รับเงินผลตอบแทนและไม่สามารถติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาได้อีกเลย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวนกว่า 10 ล้านบาท กลุ่มผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งพนักงานสอบสวนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 5 คน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถได้จับตัวผู้ต้องหาแล้ว 4 คน เหลือในส่วนของนางสาวพัชรีฯ ซึ่งเป็นญาติกับกลุ่มผู้ต้องหาและเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับเงินลงทุนจากผู้เสียหาย โดย นางสาวพัชรีฯ ได้หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางมาทำธุระบริเวณ ย่านถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาจึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน