
พ่อเพื่อนบุกยิงคาบ้านชาย 19 ปี บาดเจ็บสาหัส
เวลา 21.25 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ตำรวจ สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในหมู่บ้าน เสนานิเวศน์ โครงการ 2 ซอยประเสริฐมนูกิจ 27 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 ซอยที่ 203 เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณชั้นที่ 2 พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 รายถูกยิงเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด เสียเลือด นอน หมด สติ อยู่ กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ ทำ CPR และได้ประสานขอรถกู้ชีพขั้นสูง จากโรงบาลรามาธิบดี เข้าให้การช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บได้คืนชีพ และเร่งนำส่งโรงพยาบาล เปาโลโชคชัย 4 ทราบชื่อคนเจ็บคือนาย แจ๊กกี๊ สอนวิชา อายุ 19 ปี เป็นชาวจังหวัดมุกดาหาร บริเวณถนนหน้าบ้านเกิดเหตุพบ ปลอกกระสุนขนาด จุด 38 ตกอยู่ ประมาณ 7 ปลอก
เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของบ้านต่อมาได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาแล้วใช้ อาวุธปืนยิงขึ้นไปบริเวณชั้นที่ 2 ของบ้าน ทำให้ลูกกระสุนเข้าที่ขมับซ้ายของนาย แจ๊กกี๊ 1 นัด
จากการสอบถามพ่อเลี้ยงของคนที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า กลุ่มของลูกเลี้ยงได้ไปมีเรื่องบาดหมางกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง ที่เคยอยู่ในกลุ่มเดียวกัน จนทำให้พ่อเพื่อนคนดังกล่าวไม่พอใจ ตามมาเอาเรื่องถึงที่บ้านเมื่อคืนวันเสาร์ แต่ตัวเองและลูกเลี้ยง ได้ลงไปพูดคุยเคลียร์ปัญหา จนต่างฝ่ายต่างเข้าใจและแยกย้ายกันไป จนกระทั้งเมื่อคืนนี้ นายคิว พ่อของคู่กรณี ได้ขับรถจักรยานยนต์มาพร้อมกับแฟนสาว มาหน้าบ้านตะโกนเรียกชื่อลูกเลี้ยง ที่นอนพักอยู่ภายในห้องชั้น 2 พอเดินทางถึงขอบระเบียงบ้าน นายคิวก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นไปชั้น 2 จำนวน 6-7 นัด ตัวเองและแม่ของนายแจ็กกี้ พยายามวิ่งตามผู้ก่อเหตุ ที่พยายามขับรถจักรยานยนต์หลบหนี และดึงตัวแฟนสาวของผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ แต่กลุ่มของผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะตามมาสมทบ และรุมทำร้าย ก่อนหลบหนีไป
คลิปเหตุการนี้ ถูกถ่ายเอาไว้ได้จากพลเมืองดี หลังสิ้นเสียงปืน กลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 3-4 คนพยายามรุมทำร้ายแม่ และพ่อเลี้ยงของนายแจ็กกี้ ขณะพยายามลงมาขัดขวางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ
ขณะที่พันตำรวจเอกประภาส แก้วฉีด ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง พร้อมสั่งให้ฝ่ายสืบสวนเร่งแกะรอยผู้ก่อเหตุ ติดตามตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 1 คน ส่วนมูลเหตุหรือแรงจูงใจก่อเหตุ ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ในขณะนี้ ต้องรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยานทั้งหมดให้ครบถ้วนก่อน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว กรุงเทพมหานคร รายงาน