
ชายคลุ้มคลั่งมีอาวุธปืนคล้ายเอชเค. ยิงใส่รถตำรวจ ก่อนโดนสวนคืนได้รับบาดเจ็บ จนท.จึงรีบเข้าไปคุมตัว
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังตำรวจทุกชุดทั้งชุดปราบปราม และชุดสายสืบนับ 100 นาย พร้อมอาวุธปืน และอุปกรณ์ต่างๆ ไล่ล่าคนร้ายร่างท้วมแต่งกายด้วยกางเกงขายาว เสื้อยึดแขนสั้น สะพายอาวุธปืนสงครามคาดว่า น่าจะเป็นปืนเอชเค.บริเวณถนนสายตำบลแม่สอด กับ ตำบลแม่ปะ จุดสี่แยกบายพาส
ทั้งนี้ หลังจากที่ชายคนดังกล่าว ใช้รถยนต์กระบะสีดำเข้าไปในปั้มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแห่งหนึ่ง ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลนครแม่สอด และเข้าไปอาละวาด เมื่อตำรวจจะเข้าไประงับเหตุ กลับถูกชายคนดังกล่าวยิงออกมาถูกใส่รถยนต์ตำรวจตราโล่ จำนวน 2 นัด กระสุนถูกบริเวณข้างรถยนต์ และเกราะกำบังแต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ต่อมา คนร้ายได้หลบหนีไปทางถนนสายแม่สอด แม่ปะ เขตตำบลแม่สอด เก็บตัวอยู่บริเวณร้านอาหารชื่อดังใกล้แยกถนนบายพาส เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไป และมีการปิดถนนสายแม่สอด แม่ปะ จากนั้น จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ปั้มน้ำมัน เพื่อเก็บปลอกกระสุน พร้อมทั้ง หลักฐานของคนร้าย ซึ่งพบรถยนต์กระบะสีดำ และเสื้อผ้ากองอยู่ข้างรถยนต์
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอกำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด เพื่อไปสนับสนุนแล้ว และพบคนร้ายบริเวณหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง สายแม่สอด แม่ปะ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อญาติคนร้าย และทราบว่า บิดาเป็นตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยจะมีการให้ญาติ เข้าไปเกลี้ยกล่อม
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ปิดล้อมชายคลุ้มคลั่ง บริเวณแยกศิรินิยม ถนนสายแม่ปะ แม่สอด ชายคลั่งได้เดินจะไปทางแยกศิรินิยม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตามไป ทำให้ชายคลั่งได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีการปะทะกัน 1 นาที
ชายคลุ้มคลั่ง ถูกกระสุนปืนบริเวณไหล่ด้านซ้ายกระสุนฝังใน ตรงบริเวณอกด้านขวา ไม่โดนจุดสำคัญ และบริเวณก้นด้านซ้าย กระสุนทะลุ ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัว และรีบยึดอาวุธปืนออกมา จากนั้น ตำรวจได้ช่วยกันควบคุมคนร้าย และนำส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาลแม่สอด โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปควบคุมตัวอย่างใกล้ชิด
หลังจากเหตุการณ์สงบลง เจ้าหน้าที่จึงปล่อยรถยนต์ และให้ประชาชนไปมาได้ตามปกติ แต่กันพื้นที่ไว้บางส่วนเพื่อให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ประชาชนต่างโล่งอก และชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ร่วมกันทำงาน และไม่มีประชาชนได้รับอันตรายมีแต่ทรัพย์สินของตำรวจได้รับความเสียหายเป็นรถยนต์ตราโล่และรถยนต์ชุดสืบสวนยางแตก อย่างไรก็ดี ทราบชื่อชายที่ก่อเหตุภายหลังคือ นายอรุพันธ์ อายุ 43 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงาน