เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรในการเปิดพื้นที่ และเคลียร์ซากอาคาร สตง. ถล่ม หลังจากสามารถเริ่มเคลียร์พื้นที่ชั้นใต้ดินได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อจะเร่งค้นหาผู้สูญหายเพิ่มเติม

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บอกถึงความคืบหน้าของการปฏิบัติการ ว่า โซน D สามารถเปิดพื้นได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนโซน A ที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาเคยพบร่องรอยของผู้สูญหายอย่างคราบน้ำเหลืองที่โพรงชั้นล่าง แต่ติดแนวผนังกั้นทำให้ไปต่อไม่ได้ วันนี้จึงจะเร่งเปิดซากอาคารโซนนี้ออกเพื่อไปให้ถึงชั้นใต้ดิน โซน C ที่ติดกับตัวพื้นอาคารลานจอดรถ คาดว่าคนลงจากบันไดหนีไฟ แล้ววิ่งเพื่อลงมาเพื่อหลบหนี แต่เนื่องจากตัวอาคารชั้น 1 ยุบลงไปอัดอยู่กับพื้นชั้นใต้ดิน อัดแน่นสูงจากพื้นใต้ดินประมาณ 50 เซนติเมตร แต่ความสูงของชั้นใต้ดิน ประมาณ 3 เมตร ตอนนี้สามารถเปิดไปได้แค่ 1 เมตรเท่านั้น ดังนั้นแผนการปฏิบัติที่โซน C วันนี้จะต้องเร่งเดินหน้าเปิดพื้นที่ซากอาคารต่อ ที่ยังเหลืออีก 2 เมตร เพื่อไปให้ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน รวมถึงบริเวณโถงบันได ที่พบปล่องลิฟท์ด้วย เพราะจะไปเชื่อมกับอาคารจอดรถ คาดว่า ถ้าไม่มีอะไรที่จะต้องชะลอ วันนี้จะถึงพื้นชั้นใต้ดินของโซน C ได้ทั้งหมด

โดยชั้นใต้ดิน จะมีเสาที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่ การเจาะกระแทก ก็ต้องใช้กำลังและเวลานานมาก แต่ทั้งนี้ตลอดการปฏิบัติการ มีการประเมินหน้างานของการเคลื่อนตัวตลอด ซึ่งไม่ได้กังวลว่าจะมีอาคารทรุดตัวซ้ำลงไป และไม่เกิดอันตราย

นายสุริยชัย ยอมรับว่า ที่ผ่านมางานค่อนข้างหนัก และตอนนี้ภาคเอกชนบางส่วนก็ทยอยถอนกำลังและเครื่องจักรไปบ้าง ซึ่งถ้ามีเครื่องจักรตัวไหนเสีย อาจจะต้องมีบางตำแหน่งหายไป เพื่อทำการพักซ่อมแซมบ้าง แต่ก็ยังสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามแผนเช่นเดิม

ส่วนการเก็บคอลลิ่งปูน หรือเก็บตัวอย่างปูน ยืนยันได้ว่า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บรวบรวมหลักฐาน กระจายเก็บในทุกจุด ไม่ได้เก็บเพียงจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น เพราะหากจุดไหนที่มีการมาร์คจุดไว้ เจ้าหน้าที่ต้องย้ายขยับเครื่องจักรหน้างานเพื่อรอให้ เจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บตัวอย่างปูน เพื่อไม่ให้เกิดผลระทบ ซึ่งมีการเก็บตัวอย่างปูนอย่างต่อเนื่องทุกวัน

ส่วนตัวเลขผู้ประสบเหตุ จากเดิมที่มียอดทั้งหมด 103 ราย แต่มีญาติของผู้สูญหาย ไปแจ้งความ สน.บางซื่อ 6 คน แต่ล่าสุดเพิ่งจะได้รับการยืนยันจากการเก็บตัวอย่าง DNA ไปตรวจ พบว่า ตรงกับชิ้นส่วนที่เจอในซากอาคาร ทำให้ตัวเลขตอนนี้ ขยับยอดผู้ประสบเหตุจาก 103 ราย เป็น 109 ราย และตอนนี้มีผู้เสียชีวิตยืนยันได้แล้ว 86 ราย ส่งเทียบเคียงเอกลักษณ์บุคคลกับญาติไปแล้ว 63 ราย แบ่งเป็นสัญชาติไทย 46 คน เมียนมา 15 กัมพูชา 1 คน และลาว 1 คน ผู้บาดเจ็บตัวเลขคงเดิมที่ 9 ราย สูญหาย 14 ราย และยังมีชิ้นส่วนร่างกายอีก 20 กว่าชิ้น โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างรอการตรวจพิสูจน์เช่นกัน