วันที่ 3 พ.ค.68 กรณีนายอำนาจ เต็นติรัมย์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมูที่ 7 บ้านเสม็ด ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างไปดูไร่อ้อยของตัวเอง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.เช้าที่ผ่านมา

เหตุดังกล่าวชาวบ้านต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง เพราะฟ้าไม่เคยผ่าคนขณะขับรถมาก่อน และต่างหวาดผวาเวลาจะออกไปไหนในช่วงฝนกำลังตก ซึ่งบรรยากาศที่งานศพของนายอำนาจ มีชาวบ้านทยอยมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวไม่ขาดสาย

นายธรีเกต ยอดยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านเสม็ด ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้นโยบายเกี่ยวกับการเตือนภัยธรรมชาติทุกชนิด โดยเฉพาะเหตุการณ์ฟ้าผ่าเนื่องจากปัจจุบันมีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงเปิดหอกระจายข่าวประกาศเตือนเป็นระยะ ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับลูกบ้านของตนในลักษณะนี้

ขณะที่นางสาวเกวลิน เต็นติรัมย์ อายุ35ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่าจริงแล้วตนตั้งใจจะพ่อไปเที่ยวในวันเกิดของพ่อคือวันที่ 20 พ.ค.นี้ กะเตรียมเงินจะเอาไปให้พ่อใช้ แต่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก่อน

นางสาวเกวลิน เล่าด้วยว่าหลังจากญาติรู้ข่าวว่าพ่อถูกฟ้าผ่า ได้มีน้องชายพ่อ มาเล่าให้ฟังว่าพ่อของพ่อคือปู่ของตนเองเล่าผ่านมาว่า เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.คืนก่อนที่พ่อจะถูกฟ้าผ่าในตอนเช้า ปู่เห็นพ่อมานั่งอยู่หน้าบ้านกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่ไม่ได้พูดอะไร พ่อรุ่งเช้ามาทราบว่าลูกชายของปู่เสียชีวิตแล้ว ทั้งที่กลางคืนที่ปู่เล่าพ่อไม่ได้ไปไหน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์ รายงาน