รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยิงกันเสียชีวิต ตั้ง 4 ประเด็นการสังหาร ประวัติผู้เสียชีวิตโชกโชน

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยิงกันเสียชีวิต ตั้ง 4 ประเด็นการสังหาร ประวัติผู้เสียชีวิตโชกโชน

เวลา 12. 00 น. ความคืบหน้าเหตุยิงกันเสียชีวิต หน้าตึกแถว5ชั้น ภายในซอยนวลจันทร์ 22 กลางดึกที่ผ่านมา ต่อมา ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานสืบสวนพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ตำรวจฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณบริเวณตึกแถว 5 ชั้นภายในซอยนวลจันทร์ 22 โดย ทางด้านของรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เรียกประชุม เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น พร้อมทั้งแนวทางการสืบสวนสอบสวนสาเหตุของการฆาตกรรมดังกล่าว รวมถึงการรวบรวมหลักฐานหลังเกิดเหตุ เช่นภาพจากกล้องวงจรปิด และการไล่เส้นทางหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ และใล่เส้นทางของคนร้ายในการหลบหนี

ในส่วนของการประชุม ชุดสืบใช้เวลาภายใน 5 นาทีเท่านั้น และสำหรับพยานหลักฐานล่าสุด เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ด้านหน้าสถานบริการแห่งหนึ่ง ซึ่งจับภาพคนร้ายขณะลงมือก่อยิงผู้เสียชีวิตได้ แต่ภาพดังกล่าวไม่เห็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ซึ่งทำให้ตำรวจยังคงเดินหน้าควานหาภาพกล้องวงจรปิดในพื้นที่แวดล้อมใกล้เคียง รวมถึงตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อดูป้ายทะเบียนรถและรูปพรรณของคนร้าย

ด้านพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำญาติของผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทราบว่าผู้ตายเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้เพียง3เดือน ยังไม่มีงานทำ ต้องอาศัยอยู่กับญาติ แถวสุขาภิบาล 5 และเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ เพิ่งออกจากเรือนจำได้ 3 เดือนยังไม่มีมีงานทำ โดยประวัติของผู้เสียชีวิตมีคดีลักทรัพย์ 3 คดีในพื้นที่สน. ดินแดง 2 คดี และในพื้นที่สภ.โพธิ์แก้วจังหวัดสมุทรปราการ 1คดี ทั้ง 3 คดีเกิดขึ้นในปี 2563

ส่วนวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตขับรถเข้ามาภายในซอยดังกล่าว เนื่องจากเคยทำงานเป็นคนคุมสถานบริการแห่งหนึ่ง เคยพักอาศัยอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ และแฟนสาวก็ยังทำงานอยู่ในบริเวณนี้และสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐาน ไว้ทั้งหมด4ประเด็น ประกอบด้วย ความขัดแย้งก่อนต้องโทษคดีลักทรัพย์,ปัญหาทะเลาะวิวาททั้งก่อนต้องโทษและหลังพ้นโทษ, ชู้สาว, เรื่องการพนัน

สำหรับผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สามารถเก็บปลอกกระสุนปืนได้ทั้งสิ้น 15 ปลอก ส่วนผู้เสียชีวิตพบบาดแผลบริเวณศีรษะ 5 นัดและลำตัวอีก 4 นัด รวมทั้งหมดเข้าที่ร่างกายผู้เสียชีวิต 9 นัด

ส่วนพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ ขณะคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อPCX ผู้ร้ายเป็นชายสองคนรูปพรรณสันฐานคนขับใส่เสื้อฮู้ดสีเทาคลุมศีรษะ ส่วนคนซ้อนใส่เสื้อคลุมสีดำสวมหมวกกันน็อกครึ่งใบ

โดยลักษณะขับรถเข้ามา วน1รอบ ก่อนจะเข้าไปในร้านโต๊ะสนุ้ก แต่เมื่อไม่เจอเป้าหมายจึงออกมา และเป็นจังหวะที่สวนทางกับผู้ตายที่กำลังขับรถเข้ามาในซอยพอดี ทำให้ผู้ก่อเหตุวนรถกลับมาอีกครั้งและเรียกชื่อผู้ตาย ก่อนที่คนซ้อนจะลงจากรถเข้ามากระหน่ำยิงซึ่งตำรวจตรวจตรีนพศิลป์ระบุว่า จากที่เห็นพฤติการณ์ดังกล่าวแล้วเป็นการ เจตนามาก่อเหตุแบบล็อกเป้า เป็นลักษณะคล้ายการทำงานของกลุ่มมือปืนรับจ้าง

อย่างไรก็ตามพลตำรวจตรีสมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลรับผิดชอบงานฝ่ายสอบสวน ได้เดินทางเข้ามา ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยพร้อมสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว กรุงเทพมหานคร รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ