สาวร้องสื่อช่วย! โดนหนุ่มพม่าตามคุกคาม บุกคอนโดฯ-ขู่จะทำร้าย ตลอด 3 วัน 3 คืน แจ้งตร. ไปหลายครั้งแล้ว ก็บอกเหตุยังไม่เกิด

สาวร้องสื่อช่วย! โดนหนุ่มพม่าตามคุกคาม บุกคอนโดฯ-ขู่จะทำร้าย ตลอด 3 วัน 3 คืน แจ้งตร. ไปหลายครั้งแล้ว ก็บอกเหตุยังไม่เกิด

เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่กำลังได้รับการพูดถึงอยู่ในขณะนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ทำเอาจำจนวันตาย เมื่อเธอนั้นถูกวัยรุ่นชาวเมียนมาคุกคามและข่มขู่อย่างรุนแรง โดยเป็นการส่งข้อความขู่เอาชีวิต และดักรอหน้าคอนโดฯ แม้เธอจะแจ้งความหลายครั้ง แต่ตำรวจก็ยังไม่ได้ดำเนินคดีอย่างจริงจัง โดยอ้างว่า เหตุยังไม่เกิด มิหนำซ้ำหนุ่มรายนี้ยังไม่มีเอกสารสำคัญ อาทิ พาสปอร์ตตัวจริง รวมไปถึงเวิร์กเพอร์มิต

โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้ความว่า ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอความช่วยเหลือ ช่วยแชร์ถึงหน่วยงานที่สามารถจัดการได้ทีค่ะ ขอร้อง ลินไม่สามารถนอนหลับได้ หรือ ใช้ชีวิตปกติได้เลย ใน 3 วัน ที่ผ่านมา เนื่องจากลินโดนชายชาวเมียนมา คนในคลิป Stalker และข่มขู่ ตามถึงคอนโดฯ ถึง 3 ครั้ง 3 วันติดต่อกัน โดยเริ่มต้นจากชายเมียนมาคนนี้ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งชายคนนี้ได้มีการส่งข้อความเข้ามาทางอินสตาแกรม โดยใช้ข้อความประมาณว่า ผมสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่สวย ถึงดึงดูดแต่ผู้ชายที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอ ซึ่งทางลินได้มีการตอบข้อความกลับไปว่า เพราะบางคนอาจจะคิดแค่เรื่องอย่างว่า และไม่ได้ตอบโต้ข้อความอะไรใดๆ กลับไปอีก

อีกทั้ง ชายคนนี้ก็ได้ส่งข้อความมาไม่หยุด จนทางลินเองก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ และได้ทำการบล็อกไป แต่หลังจากนั้น เมียนมาคนนี้ก็สมัครแอคเคานท์ใหม่มาส่งข้อความซ้ำ ๆ ทั้งทางอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และติ๊กต็อก รวมๆ กันเป็น 10-20 แอคเคานท์ ซึ่งลินตามบล็อกทุกแอคเคานท์ที่เขาส่งข้อความมา ในวันเกิดเหตุครั้งแรก 26 เม.ย. 68 ชายเมียนมาคนนี้ได้ส่งข้อความมาล่าสุด โดยใช้แอคเคานท์ใหม่ว่า กล้าดียังไงมาบล็อก เลขห้องเลขอะไร เตรียมตัวไว้เลย จะเอาตัวไป ซึ่งลินได้บล็อกไป

นอกจากนี้ ในขณะที่เขาส่งข้อความนี้มา เขาได้เดินทางมาที่คอนโดฯ และนั่งอยู่ตรงส่วนกลางแล้ว แต่วันนั้นลินไม่ได้อยู่คอนโดฯ ค่ะ เดินทางมาบ้านแม่กับแฟน แต่มีการเช็กกล้องวงจรปิดย้อนหลังแล้ว บวกกับข้อมูลจากหัวหน้า รปภ. โดยวันเกิดเหตุครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 68 ชายเมียนมาคนนี้เดินทางบุกมาที่คอนโดฯ อีกรอบ แต่ไม่สามารถขึ้นมาบนตึกได้ เนื่องจากการเข้าอาคารต้องใช้คีย์การ์ด ชายคนนี้ใช้เบอร์ไทยโทรฯ มาหาลิน ช่วงเวลา 22.30 น. โดยประมาณ ซึ่งลินไม่ทราบเลยว่าเขาเอาเบอร์โทรฯ ที่อยู่ส่วนตัวมาจากไหน เพราะลินไม่เคยโพสต์เรื่องส่วนตัวลงเฟซบุ๊ก หรือช่องทางโซเชียลเลย

หลังจากรับสาย เขาก็พูดว่าลงมาให้เจอหน้าหน่อย ซึ่งในเวลานั้นลินคิดว่าเป็นเบอร์ของลูกค้า ที่ลินกำลังจะร่วมประชุมงานกับเขาช่วงเที่ยงคืน พอลินรู้สึกแปลกๆ ลินก็วางสายทันที หลังจากนั้นเขาก็โทรฯ กลับมา ลินจึงให้แฟนคุย โดยแฟนก็คุยถามปกติว่าเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม เขาได้กดตัดสายและก็โทรฯ มาอีกรอบ พร้อมใช้คำพูดข่มขู่แปลเป็นไทยได้ว่า จะลงมาให้เห็นหน้าดี ๆ หรือจะลงมาแบบเป็นศพ หรือจะต้องให้ขึ้นไปทำให้เป็นศพทั้งคู่ ทางลินเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วค่ะ จึงได้โทรฯ หานิติบุคคลช่วยยืนยันว่าชายคนนี้อยู่ตรงนี้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ ทางนิติยืนยันมาว่าใช่ ทางลินได้มีการโทรฯ แจ้งตำรวจในทันที เมื่อตำรวจมาทางลินก็ลงไปพร้อมกับตำรวจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ จึงเดินทางไปที่โรงพัก สน.แห่งหนึ่ง เพื่อทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนก็ได้ทำการตรวจสอบเอกสารของชายเมียนมาคนนี้ ซึ่งเขาไม่มีเอกสารครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ พาสปอร์ตตัวจริง รวมไปถึงเวิร์กเพอร์มิต มีเพียงแค่รูปถ่ายหน้าพาสปอร์ตเพียงเท่านั้น หลังจากตรวจสอบเอกสารเสร็จ ทางตำรวจก็ได้มีการถ่ายรูปทำประวัติชายคนนี้ไว้

พร้อมได้เตือนว่าให้หยุดทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และก็ปล่อยชายคนนี้กลับไป โดยที่ไม่ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมเลยสักนิด ซึ่งทางตำรวจก็ได้มีการสอบถามว่า ไปได้ที่อยู่ของลินมาจากไหน ทางเขาอ้างมาว่าได้มาจากที่ทำงาน ซึ่งทางลินได้โต้กลับทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ ลินทำธุรกิจส่วนตัวกับแฟนที่บ้าน หากมีใครมาหาเป็นไปไม่ได้ที่ลินกับแฟนจะไม่รู้ ซึ่งเมียนมาก็เงียบ และก้มหน้าไม่ตอบอะไรกลับมา แต่หลังจากแจ้งความได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ชายคนนี้ก็ส่งข้อความกลับมาว่า มันยังไม่จบ มันจะไม่สิ้นสุดแม้ว่าฉันจะต้องตาย

ต่อมา เมื่อวันเกิดเหตุครั้งที่สาม 28 เม.ย. 68 ทางลินและแฟนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมว่า ชายเมียนมาคนนี้ส่งข้อความมาไม่หยุด หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว ระหว่างทางกลับบ้าน ลินกับแฟนก็ได้เจอชายเมียนมาคนนี้ ได้มาดักรออยู่แถวบริเวณคอนโดฯ เป็นครั้งที่ 3 หลังจากทำการแจ้งความไปแล้ว ลินก็ได้โทรฯ แจ้งตำรวจอีกครั้ง และเดินทางกลับไปที่ สน.แห่งหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งยังคงไม่มีเอกสารตัวจริงเช่นเดิม และ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะแค่นัดมาให้ปากคำเช่นเดิม ซึ่งลินได้แจ้งไปแล้วว่า ลินมีความประสงค์ที่จะแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี ไม่ใช่ต้องการแค่ลงบันทึกประจำวัน

ซึ่งทุกครั้งที่ลินไป สน. ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาแค่ว่า จะให้ทำไง เหตุมันยังไม่เกิด การที่ลินโดนข่มขู่ โดนตามขนาดนี้ ต้องรอให้เหตุมันเกิดก่อนจริงๆ เหรอคะ ลินต้องรู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัย ทั้งๆ ที่อยู่ในประเทศตัวเองแบบนี้จริง ๆ เหรอ ลินส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากสื่อไหนๆ ทุกสื่อเงียบหมด เจ้าหน้าที่เงียบหมด ไร้การให้ความช่วยเหลือใดใดทั้งสิ้น หรือต้องให้มันถึงแก่ชีวิตของลินและคนในครอบครัวก่อนจริงๆ เหรอคะ ถึงจะสามารถเอาผิดกับชายเมียนมาคนนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ทางลินขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการให้ข้อมูลส่วนตัวที่อยู่กับชายเมียนมาคนนี้อย่างแน่นอน และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเช่นกันว่า ชายเมียนมาคนนี้มารับรู้ข้อมูลส่วนตัวของลินได้อย่างไร เบื้องต้นลินส่งเรื่องไปทุกเพจแล้วค่ะ แต่เงียบหมดเลยค่ะ ไม่มีการตอบกลับใด ๆ เลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ