
หลวงปู่เผานั่งยาง หน้าพระธาตุประจำอำเภอ พบจดหมายลามรณภาพ
วันนี้ (27 ก.พ.) ร.ต.อ.นพพล สัตยดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งว่ามีพระภิกษุมรณภาพภายในสถานปฏิบัติธรรมพระธาตุศรีจอมเทพ หมู่ 5 ต.เมืองชุม อ.เวียงชัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุประจำ อ.เวียงชัย จึงพร้อมด้วยตำรวจสืบสวนและฝ่ายปกครอง ต.เมืองชุม รุดไปตรวจสอบพบพระธาตุตั้งอยู่บนดอยสูงห่างจากถนนพื้นราบประมาณ 1 กิโลเมตร และที่ลานห่างจากกกุฏิและพระธาตุประมาณ 100 เมตรพบร่างของพระไพรัตน์ โกมลกะหนก อายุ 74 ปี สภาพถูกไฟไหม้จนไม่เหลือสภาพร่างกายเดิมและพบมียางรถยนต์ประมาณ 2 เส้น กระเป๋าเดินทางและอื่นๆ ถูกไฟเผาไหม้ในบริเวณเดียวกันจนเป็นกองเถ้าสีดำ
จากการตรวจสอบภายในกุฏิพบสมุดเขียนข้อความที่มีการบันทึกเอาไว้อย่างน้อย 3 หน้าระบุว่าพระไพรัตน์เป็นผู้เขียนเองและมีเนื้อหาว่าขณะเขียนมีสติและร่างกายเป็นปกติจึงขอบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าไม่มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องจึงไม่ต้องไปสอบสวนใคร และได้กราบนมัสการพระราชาคุณ เจ้าคณะจังหวัดและพระเถระขั้นผู้ใหญ่ทุถกรูป ขออภัยที่ก่อเหตุแต่ทำเพราะความจำเป็นและหมดความอดทน ไม่ได้มีเจตาจะทำให้ศาสนามัวหมองและเกิดความเสียหาย พระไพรัตน์บอกอีกว่าได้บูรณะพระธาตุมาตั้งแต่ปี 2561 เพราะมีภิกษุที่รู้จักกันแนะนำและพระผู้กครองต้องการบูรณะให้เป็นพระธาตุประจำอำเภอหลังจากที่เคยรกร้างมานับ 10 ปี แต่ปรากฎว่าจนถึงป้จจุบันไมได้รับการช่วยเหลือดูแลจนคณะศรัทธาพากันท้อแท้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตัวเองคิดสั้นเช่นนี้
เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานและแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานขึ้นไปทำการตรวจสอบ รวมทั้งนำศพส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบว่าพระไพรัตน์ได้จำอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวตามลำพังเพียงรูปเดียว ทุกๆ เช้าก็จะมีลูกศิษย์นำรถไปรับเพื่อพาลงมาบิณฑบาตในหมู่บ้านและพากลับหรือนำอาหารไปถวายจนเป็นเรื่องปกติ กระทั่งวันเกิดเหตุได้ขึ้นไปหาก็พบร่างถูกไฟไหม้มรณภาพแล้วดังกล่าว
พระอธิการธีรธรรม ฐิตสิปฺโป เจ้าคณะ ต.เมืองชุม กล่าวว่าพระไพรัตน์ย้ายมาอยู่ที่พระธาตุได้มากกว่า 6 ปีโดยไม่ได้แจ้งย้ายจากสังกัดเดิมที่ จ.ลำปาง วัตรปฏิบัติท่านจะเดินจงกลมบริเวณพระธาตุโดยในเวลาประมาณ 20.00 น.คืนวันที่ 26 ก.พ.ยังมีผู้พบเห็นว่าเดินจงกลมอยู่ กระทั่งช่วงเช้าลูกศืษย์ได้นำอาหารขึ้นไปถวายก็พบว่าท่านได้มรณภาพแล้ว ทั้งนี้พระไพรัตน์ไม่เคยเล่าเรื่องราวให้คณะสงฆ์และลูกศิษย์ทราบว่าท่านป่วยด้วยโรคใดหรือไม่ แต่สำหรับตนเห็นว่าท่านเป็นคนคิดมากและไม่ค่อยพูดคุยกับคณะสงฆ์ แต่คณะสงฆ์ก็คอยดูแลช่วยเหลือตลอดเช่นเดียวกับญาติโยมที่นำอาหาร น้ำดื่มและน้ำใชไปถวายเป็นประจำ ส่วนเรื่องค่าน้ำค่าไฟก็มีเจ้าภาพถวาเป็นประจำทุกเดือนด้วย ดังนั้นจึงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งภายใน 4 วันนี้ต่อไป จากนั้นคณะสงฆ์ก็จะได้จัดพิธีศพให้ตามประเพณีต่อไป
ว่าที่ ร.ต.ชัยยา พลอยแหวน นายกเทศมนตรีเมืองชุม กล่าวว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนกลางคืนและวัดมีพระภิกษุอยู่รูปเดียวจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ก่อนเกิดเหตุได้ยินท่านบ่นเป็นประจำว่าอยากให้องค์พระธาตุได้รับใบอนุญาตุให้ถูกต้องเพราะตั้งอยู่ในเขตป่าชุมชน แต่เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่สร้างวัดและพระธาตุใหม่คล่อมจุดเดิมจึงมีการขออนุญาตไปยังกรมป่าไม้ให้เป็นที่ตั้ง "ศาสนสถานองค์พระธาตุศรีจอมเทพ" กระทั่งพระไพรัตน์ได้เข้ามาอยู่ก็ได้พยายามผลักดันให้แลวเสร็จ แต่ก็คงต้องใช้เวลากระทั่งท่านมรณภาพดังกล่าวแต่สาเหตุที่แท้จริงก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปผลต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เชียงราย รายงาน