นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2568 กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ คาดมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น

-ผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบัน 14.5 ล้านคน (ไม่ต้องลงทะเบียนรอบใหม่)

-อีก 10 ล้านคน เป็นกลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน

-ซึ่งมากจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี หรือกลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ เหตุผลที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เนื่องจากโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 กำลังจะครบ 2 ปี ที่เปิดลงทะเบียน เมื่อปลายปี 2565 เมื่อวันที่ 5 กันยายน - วันที่ 31 ตุลาคม

-สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป -รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี

-รายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี

-มีทรัพย์สิน เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน

-ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์(ตามที่กำหนด)

-ต้องไม่มีบัตรเครดิต

-มีวงเงินกู้ ที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้ ยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

-ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.

กรมบัญชีกลาง ได้กำหนดการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ที่มีสิทธิจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพเดือนละ 1,545 บาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

-วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน

-วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน

-วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน

-มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน

-มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,545 บาท.