
แม่โวยตำรวจถอยรถชนลูก หลังหนีด่านเป่าเมาแล้วขับ ทำเสียหลักหัวโหม่งเสาไฟฟ้าดับ
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 22 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ ต.เสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของนายภัทรกร เครือเหมย อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิตกรณีดังกล่าวโดยครอบครัวยังอยู่ในอาการโศกเศร้ามีญาติและครอบครัวมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนหนึ่ง
สอบถามนางสุพัฒน์ เครือเหมย อายุ41ปี แม่ของผู้ตายพร้อมเปิดเผยว่าตนเองมีลูกชายคนเดียว ตอนนี้เรียนอยู่ระดับชั้นปวส.ปีสุดท้ายอีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว ลูกชายเป็นคนดีที่ผ่านมาคอยดูแลยายที่ป่วยติดเตียงมาตลอด ก่อนเกิดเหตุเขาบอกว่าจะไปบ้านเพื่อนมาทราบอีกทีก็รู้ว่าลูกชายเสียชีวิตตอนแรกคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุธรรมดาแต่พอเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าตำรวจจะทำแบบนี้ตอนแรกขับรถมาขวางก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังถอยรถมาชนลูกชายจนทำให้รถเขาเสียหลักร่างกระแทกเสาไฟฟ้าจนตาย ซึ่งความจริงตำรวจต้องมียุทธวิธีที่ดีกว่านี้ตอนนี้จะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะลูกชายตนเองไม่ได้ไปฆ่าใครตายไม่น่ามาทำกันแบบนี้และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนอื่นอีก
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายณัฐพงษ์ อายุ 22 ปี คนเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายผู้ตายโดยเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บตามร่างกายแพทย์ให้กลับมารักษาตัวที่บ้านพร้อมเปิดว่าวันเกิดเหตุตนเองไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่อยู่ในเมืองขากลับมาก็เห็นตำรวจมีการตั้งด่านด้วยการที่ไปดื่มกับเพื่อนมาและด้วยความตกใจจึงวกรถกลับระหว่างนั้นยังมีคนเอากรวยตั้งถนนโยนมาใส่แต่ไม่ถูกใครและเมื่อถึงจุดเกิดเหตุตำรวจก็ขับกระบะมาขวางเพื่อนจึงหลบออกข้างๆแต่จนท.เขาก็ถอยรถมาอีกจนเกิดการชนดังกล่าวตอนแรกเหมือนจอดับพอรู้สึกตัวมาก็เห็นเพื่อนนอนจมกองเลือดตำรวจคุยกันว่าไม่หายใจแล้วก่อนที่กู้ภัยจะนำตัวส่งรพ.ตอนนี้รู้สึกสงสารเพื่อนและมองว่าจนท.ทำรุนแรงเกินไปหรือไม่และอยากให้เขามารับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด ลำปาง รายงาน