เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นกระแสตีกลับ หลังเกิดกระแสการต่อต้านนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อตัวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากชนวนเหตุ มี 4 นักท่องเที่ยวเข้าไปก่อความวุ่นวายขึ้นในโรงพยาบาลปาย จนกระทั่งน้องจับกุมดำเนินคดีและทำการส่งตัวกลับประเทศ

ต่อมากระแสความเกลียดชังของชาวยิวก็เพิ่มหนักขึ้นและมีกระแสความขัดแย้งอีกหลายประเด็นตามมา ทั้งการเข้ามาแย่งงานคนไทย หรือประเด็นความข้องใจกับพฤติกรรม การรวมตัวกันคล้ายกับการจัดตั้งชุมชน จนกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ กระทบกับความเชื่อมั่น ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อำเภอปายมาจนถึงวันนี้

ล่าสุด แม้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนและร่วมกับอีกหลายหน่วยงานต้องระดมกำลังเข้าทำการจัดระเบียบในเมืองปาย แต่ประเด็นต่างๆ ก็ยิ่งแตกแขนงออกไปมากยิ่งขึ้น

นางอุดมลักษณ์ ชวลิต ข้าราชการเกษียณ และผู้ประกอบการพักใหญ่ ในอำเภอปาย เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นคนอำเภอปาย และเป็นเจ้าของกิจการที่พัก วิกฤตเมืองปายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะไม่เกิดขึ้น หากนักท่องเที่ยวยอมรับกติกา และผู้ประกอบการเองมีระเบียบในการดูแลให้ดี

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเท่าเทียม ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยผู้ประกอบการเองก็ต้องดูแลบ้านเมือง หรือกิจการของตนไว้ด้วย นางอุดมลักษณ์ ชวลิต

จากปัญหาที่เกิดมากว่า 20 วัน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรปาย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและอีกหลายหน่วยงาน ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบและทำการจัดระเบียบ แต่ควรเรียกผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจ และให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่จะต้องเป็นรูปธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณลานชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ของตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีตัวแทนของนักท่องเที่ยว 4 คน มาเปิดใจพูดคุยกับข่าวที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย Miss.Gabriella , Miss.Sivan , Mr.Kfir Stoig และ Mr.Lior เผยว่า ประเด็นสถานที่ประกอบกิจทางศาสนาของชาวยิวนั้น ไม่ใช่สถานที่ปกปิด เช่นเดียวกับวัดหรือมัสยิด ทุกคนสามารถเข้าไปชมหรือดูภายในได้ เป็นเพียงสถานที่นัดพบกัน ประกอบพิธีร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน

ส่วนประเด็นว่ามีความพยายามจะให้ปายเป็นดินแดนพันธสัญญาของชาวอิสราเอลนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะการเข้ามาท่องเที่ยว ก็เพื่อศึกษา ชมขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต ธรรมชาติที่น่าสนใจ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนกลุ่มเล็ก ทุกคนต่างเสียใจ ขอให้เข้าใจว่า คนอิสราเอลไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด

สำหรับข้อข้องใจว่า ชาวอิสราเอลตั้งใจจะมาตั้งถิ่นฐาน หรืออพยพผู้คนมาตั้งถิ่นฐานที่ปายแล้วเข้ามาแย่งอาชีพคนไทยนั้น ทั้ง 4 เผยว่า การเข้ามาท่องเที่ยวที่ปาย ไม่ได้หมายถึงจะเข้ามาอยู่ถาวร หรือมาประกอบอาชีพแข่งกับคนไทย เพราะอาชีพของคนไทยก็เหมาะกับคนไทยมากกว่า คนอิสราเอลไม่มีทางที่จะทำอาหารไทยหรือนวดแบบคนไทยได้

ต่อกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นจากชาวอิสราเอลบางคนที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนอยากจะชี้แจงอย่างไรและอยากจะบอกนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวที่ไทยหรือที่ปายว่าอย่างไร นักท่องเที่ยวทั้ง 4 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะให้มองว่า จากทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงส่วนน้อยที่ทำไม่ได้ อยากฝากถึงชาวอิสราเอลที่จะมาเที่ยวต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ และสถานที่ ทั้งนี้ขอขอบคุณชาวอำเภอปายที่ให้การต้อนรับ