
ไอ้โน๊ต ปลิดชีพ 3 พ่อแม่ลูก ฟิวส์ขาด ตะคอกใส่นักข่าวประโยคเด็ด สะดุ้งกันหมด
ยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สามารถจับกุม นายโน๊ต อายุ 27 ปี และ นายเข้ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดี 3 ศพ ที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพิธีฌาปนกิจทั้ง 3 พ่อแม่ลูกนั้นจะเกิดขึ้นในวันนี้ (17 ก.พ. 2568) ที่วัดศรีภิรมย์ ม.2 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
ขณะเดียวกันที่ สถานีตำรวจภูธรคลองขลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุม นายโน้ต อายุ 27 ปี และ นายเข้ อายุ 25 ปี ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร หลังจากควบคุมตัวและมีการสอบสวนครบ 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคัดค้านการประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า เกรงว่าจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม
พร้อมกันนี้ยังมี นายเขียวพี่ชายนายโน๊ต ที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์มารับ นายโน๊ต หลังนำศพมาทิ้งในบ้านร้าง ซึ่ง นายเขียว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากน้องชายเขาเห็นเขาได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อให้ไปรับกลับบ้าน ซึ่งวันนั้นตนก็ไม่รู้ว่าน้องชายไปก่อเหตุมา จึงได้รับกลับบ้านตามปกติ ซึ่งวันนี้ตนก็จะมาให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร
นายเขียวพี่ชายนายโน๊ต ยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้มีแม่มาเยี่ยมน้องชายไปแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฝากอะไร แต่เขาเป็นคนที่รักสุนัขพันธุ์ชิวาวาชื่อว่าข้าวหอม ซึ่งเป็นสุนัขที่ตนซื้อให้เขาเลี้ยง เขารักสุนัขตัวนี้มาก ส่วนเรื่องประกันตัวยืนยันว่าทางครอบครัวจะยังไม่มีการยื่นประกันตัวน้องชายแต่อย่างใด
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงแจ้งข้อหานายโน๊ตและนายเข้ ได้แก่
ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย
ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควรแก่พฤติการณ์
ทั้งนี้ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปฝากขังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแพทย์เข้ามาตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งสองราย ซึ่งนายโน๊ตนั่งคู่กับภรรยาที่เข้ามาเป็นพยานและร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งคู่นั้นอยู่ในอาการเครียดตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายโน๊ต ออกมาก่อนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถามใดๆ
ทว่าเมื่อเข้าไปภายในรถควบคุมตัวผู้ต้องขัง นายโน๊ต กลับกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "ผมขอโทษทุกคนก็ได้ครับพี่ ผมอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ทุกอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ไม่เสียใจที่ญาติไม่มาประกันตัว ผมสมควรโดนแล้วครับ ผมขอรับผิดคนเดียว ขอโทษเข้ตั้งแต่ในห้องขังแล้ว ที่ต้องพาน้องมาผิดด้วย ส่วนเรื่องลักทรัพย์ในบ้านนายใหม่ ตำรวจนำตัวผมมาพิมพ์ลายนิ้วมือคนเดียว คนในบ้านเขาก็ไม่มีใครเชิญตัวมา
อีกทั้ง นายโน๊ต ยังมีประโยคเด็ดอีกว่า นักข่าวตีข่าวมาที่ผมคนเดียวได้เลยครับ คนอื่นไม่ได้รู้เรื่อง อยากขอโทษครอบครัวเขา แต่ขอโทษไปก็สายแล้วครับ" ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต ถามว่าเอาไปไว้ไหน นายโน๊ตก็ตอบมาด้วยท่าทางไม่พอใจพร้อมตะคอกมาว่า ผมคงเอาใช้เองแล้วมั้งครับพี่ ก็บอกว่าเอาไปโยนทิ้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ นายเข้ เอง ยังคงมีท่าทีอิดโรยนั่งคอตกสีหน้าเคร่งเครียดไม่ยอมพูดจาอะไรออกมา