
หนุ่มคลั่งยาทำร้ายเมีย แม่แท้ๆเข้าห้ามถูกคัตเตอร์แทงดับ
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 68 เพจ สนามข่าวเมืองปราการ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หนุ่มคลั่งยาทำร้ายเมีย แม่แท้ๆเข้าห้ามถูกคัตเตอร์แทงดับ ตำรวจใช้ปืนไฟฟ้าสยบคลั่ง เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยอดิเรก ถนนสุขสวัสดิ์ 70 ซอย 7 ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ชั้นล่าง พบ ร่าง นาง นางสมร อายุ 67 ปี นอนแน่นนิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้น มีแผลฉีกขาดที่ลำคอ แก้ม และหน้าอก หลายแผล ที่ลำคอพบมีดคัดเตอร์ปักคาอยู่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือห้ามเลือดและปั้มหัวใจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพขั้นสูง สนับสนุนที่เกิดเหตุ แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานแพทย์เวรเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นลูกชายของผู้ตาย ทราบชื่อ นาย ศุภชัย อายุ 38 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ต่อมาไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้จับตัวเด็กเป็นตัวประกัน เข้าไปหลบในห้องน้ำภายในบ้านของชาวบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเข้าชาร์ตโดยใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ผู้ก่อเหตุ ก่อนจะเข้าควบคุมตัว และช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย ตรวจสอบในห้องน้ำที่ผู้ก่อเหตุเข้าไปหลบซ่อนพบยาบ้าจำนวน 2 เม็ด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวไปขึ้นรถก็ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ และตะโกนด่าผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบนำตัวผู้ก่อเหตุออกจากที่เกิดเหตุขึ้นรถไปสอบสวนต่อที่โรงพัก โดยในที่เกิดเหตุทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกลูกหลงปืนไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางจาก
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า เมียได้ให้เงินผู้ก่อเหตุไปซื้อของ พอถามถึงเงินทอน ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเอาไปซื้อกรอบพระ และหาว่าเมียขโมยของ จึงเกิดการทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ แม่ของผู้ก่อเหตุ (ผู้ตาย) ได้เข้าไปห้าม ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและต่อว่าผู้ตายแล้วต่อยเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง และ ใช้เก้าอี้ไม้ตี ก่อนจะใช้มีดคัดเตอร์ปาด คอและแทงผู้ตายจนลงไปนอนกับพื้น ส่วนเมียได้วิ่งหนีไปนอกบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไปจับ เ ด็ กเป็นตัวประกันแล้วเข้าไปหลบในห้องน้ำของบ้านชาวบ้าน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าชาร์ตตัว
ภาพจาก สนามข่าวเมืองปราการ
นางกิ่งแก้ว อายุ 65 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผัวเมียเขาทะเลาะกัน เขาตีเมีย แม่เขาก็เข้าไปห้าม ตนเห็นเขาเอาเก้าอี้ตีแม่จนแม่ล้ม ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งและมีปากเสียงกับคนก่อเหตุ หลังจากนั้นตนก็เข้าห้องไปแล้ว แต่ยินเสียงดังตึ่ง ๆ จนลูกชายไปตามคนมาจนคนเต็มแล้ว ตนก็ออกมาดูก็เห็นผู้ตายนอนนิ่งแล้ว ตัวคนก่อเหตุเขาไม่ได้ทำมาหากินอะไร เคยติดคุกหลายรอบแล้วเรื่องยาเสพติดพอออกมาก็เสพ หลังก่อเหตุเขาก็ไปเข้าบ้านอีกหลังอุ้มลูกชาวบ้านเป็นตัวประกัน จนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวเขาได้ก็โดนชาวบ้านรุม ตนก็เป็นแค่เพื่อนบ้านไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไร
ภาพจาก สนามข่าวเมืองปราการ
แฟนของผู้ก่อเหตุ อายุ 38 ปี ซึ่งยังอยู่ในอาการตื่นตกใจ เล่าว่า ตนอยู่กับแม่ข้างล่างกำลังจะนอน เขาอยู่บนห้องเป็นแบบนี้มาหลายรอบแล้ว ตนก็พยายามปล่อยเพราะรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ ครั้งแรกเขาเคยถีบตน 1 ที ครั้งที่ 2 ก็ถีบตนอีก 1 ที ตนเคยถามเขาก็บอกว่าไม่ได้ทำ เขาเสพยา ตนก็ไม่รู้ว่าเขาเอาเงินมาจากไหนแต่วันนี้ตนให้เขาไปซื้อของแต่เขาไม่ได้เอาเงินทอนมาคืน บอกว่าเอาไปซื้อกรอบพระ แล้วเขาหาว่าตนไปขโมยของเขา ตนเหนื่อยที่ต้องมาเจอแบบนี้ ตนรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ก็พยายามข่มใจ ถ้าแม่ตนอยู่คงเป็นแม่ตนที่โดน
หลังถูกทำร้ายตนหนีไปซ่อนอยู่ใต้ท้องรถเพื่อนบ้าน เพราะกลัวเขาจะตามมาทำร้าย แต่ตนก็ยังเป็นห่วงลูก แต่ก็ไม่กล้าออกมา ตอนแรกเขาตีตนแต่แม่เขาเข้ามาห้าม เขาก็ผลักแม่ แม่หยิบไม้กวาดมาตีเขาหันมาตบ แม่ก็ตีอีกจากนั้นเขากำหมัดต่อยแม่ไม่หยุด ตนก็พยายามห้ามเขาก็ไม่หยุดตนคิดว่าถ้าตนอยู่เขาคงไม่ปล่อยตนไว้แน่ ตนเลยวิ่งหนีและได้ยินเสียงเหมือนเขาวิ่งตามถ้าตนวิ่งไกลคงไม่พ้นตนจึงหนีไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนที่โรงพัก จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดมาได้ประมาณ 2 เดือน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช พร้อมเชิญตัวผู้ก่อเหตุที่อยู่ในเหตุการณ์ ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป