
บุกจับกรรมการบริษัทฯ จำหน่ายรถหรูนำเข้า เลี่ยงภาษี กว่า 160 ล้านบาท อ้างถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นายจักรีฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญา ที่ 403/2568 ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องพัก อาคารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ ด้วยกรมสรรพากร ได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการขายรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์หรู มีนายจักรีฯ เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจ มีพฤติกรรมในการเลี่ยงภาษี โดยการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จากการตรวจสอบประวัติการยื่นภาษีของบริษัทฯ ดังกล่าวย้อนหลัง ช่วงระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ.2554 - พ.ศ.2558) พบว่ามีการยื่นรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เมื่อทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ดังกล่าว กลับพบว่ามีเงินฝากเข้าบัญชี บริษัทฯ กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนสูงกว่ายอดรายได้ที่ยื่น ภ.ง.ด.50 ต่อกรมสรรพากร และบริษัทฯ ไม่สามารถนำส่งเอกสารและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการหรือที่มาของเงินได้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำโดยการแจ้งความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 160 ล้านบาท ต่อมากรมสรรพากร จึงได้นำพยานหลักฐาน มาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทฯ ดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหานี้ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ห้องพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้นำกำลังเข้าไปทำการจับกุมตัว ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 403/2568 ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และอ้างว่า ตนได้มาสมัครงานเป็นพนักงาน ขับรถยนต์และพนักงานขายที่บริษัทฯ ดังกล่าว โดยมีพนักงานฝ่ายบุคคล ได้ให้ตนมอบเอกสารส่วนบุคคล เพื่อใช้ในการสมัครงานให้ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าได้มีการนำเอกสารของตนไปเปิดและจดทะเบียนบริษัทฯ มาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวและได้แจ้งให้ตนทราบเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน