จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567  เวลา 21.50 น. ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต นางวรกนก  เทพพิมล อายุ 57 ปี ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแทงคอ 11 แผลภายในบ้านพักเลขที่ 26/20 หมู่8 ซอยคลองสาม 8/4 ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารไขคดีติดตามจับกุมตัว  นายประทิน หรือหนุ่ม เกตุลาพร อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขย ตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยพบดีเอ็นเอของปลัดนกอยู่ที่มีดพก ที่นายหนุ่มพกติดตัวไว้ จนไปสู่การออกหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี   สามีของนางบงกช แก้วกรม อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนางสาววรกนก หรือปลัดนก เทพพิมล อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเห็นควร โดยทางเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานสำคัญคือมีพกที่พกติดตัวอยู่ซึ่งเป็นหลักฐานเด็ดในการมัดตัวผู้ต้องหา  

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 28 ม.ค. พล.ต.ท.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี  พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง.ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง.ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง  ได้ร่วมกันจับกุมตัวนางบงกช แก้วกรม อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนางสาววรกนก หรือปลัดนก เทพพิมล อายุ 57 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเห็นควร  

ทางด้าน นางบงกช แก้วกรม อายุ 51 ปี กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองรู้สึกเสียใจมาก โดยตนเองปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น ส่วนเรื่องมีดก็ไม่มีไม่เคยซื้อไม่เคยหามีดทำครัวมีอยู่ที่บ้านแต่มีดแบบนี้ไม่มี คือตนเองให้การปฏิเสธ ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ผู้บริสุทธิ์เป็นผู้ร้ายมันเกิดขึ้นได้

ทางด้าน พล.ต.ท.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า  ซึ่งขอญาติเรียนสื่อมวลชนให้ทราบว่าเคสนี้เป็นเคสต่อเนื่องเมื่อสองสามเดือนที่แล้วที่ตกเป็นข่าวว่าปลัดนกถูกแทงคอตายก็คือในสื่อและสื่อทางสังคมด้วยไม่เชื่อว่ามีผู้ร้ายเพียงคนเดียวในส่วนของนายหนุ่มที่เป็นแฟนของน้องสาวด้วยพยานหลักฐานศาลอนุมัติหมายจับและได้จับกุมตัวดำเนินการไปจนเสร็จสิ้นแล้ว แต่ในส่วนของนางสาวเก๋ที่ศาลท่านได้ให้หมายจับมาในวันนี้ก็คือว่าเราทำการสืบสวนมาโดยตลอดให้พิสูจน์หลักฐานหนึ่งช่วยกันเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและพยามสืบสวนข้อมูลทั้งหมดและนำเสนอศาลท่านจึงได้อนุมัติหมายจับในครั้งนี้ออกมา ในส่วนหลักฐานเด็ดก็จะเป็นในที่เกิดเหตุแต่ผมขอญาติยังไม่เปิดเผยเพราะว่านางสาวเก๋ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตยังให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา และผู้ต้องหามีสิทธิ์ในการติดต่อทนายในเรื่องของพยานหลักฐานทั้งหมดที่ว่าเป็นจุดที่ศาลท่านให้หมายจับมาผมขออนุญาตให้อยู่ในสำนวนครับเพราะว่ามันประกอบกันหลายอย่างเพราะว่าในสิ่งที่เราส่งตรวจทั้งหมดมันมีหลายชิ้นมากทางพิสูจน์หลักฐานพยามตรวจออกมาประกอบกับการสืบสวน ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเราก็พยามทำมาตลอดจนประกอบจนครบสมบูรณ์ถึงแม้จะปฏิเสธ

อย่างไรก็ตามเราก็รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเสนอศาลจังหวัดธัญบุรีเลยได้หมายจับออกมา โดยหลักฐานหลักๆก็มาจากข้อมูลของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งการที่เป็นน้องสาวในการจะตรวจสอบ ทางวิทยาศาสตร์จะเป็นไปได้ยาก ในเบื้องต้น เพราะเป็นเชื้อสายเป็นสายโลหิต ในเบื้องต้นได้แจ้งขข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน  และ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเห็นควร  

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ปทุมธานี รายงาน