เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 มกราคม 68 นายวัฒนศักดิ์ พลซา อายุ 24 ปี อยู่บ้านน้ำฮวย ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย จ.เลย ร้องเรียนสื่อว่า นางสุฐิตา ภักดี อายุ 46 ปี แม่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นผีน้อย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา มีคนโทรมาข่มขู่ขอเงินค่ารักษา และดำเนินการศพแม่ 36,000 บาท ทางสถานทูตไทยที่ญี่ปุ่นโทรมาบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบนางเพ็ชร ภักดี อายุ 70 ปี แม่ และนายวัฒนศักดิ์ พลซา อยู่ที่บ้าน

นางเพ็ชร ภักดี แม่ของนางสุฐิตา เล่าว่า ลูกสาวไปทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นผีน้อย ไปเก็บผักของนายจ้างชาวญี่ปุ่น เมื่อประมาณปลายปี 2567 และซื้อรถยนต์คันหนึ่งกับนายจ้างเป็นเงินผ่อน เพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงาน จนกระทั่งมีตำรวจมาจับนายจ้างที่ลักลอบนำคนงานผิดกฎหมายมาทำงาน ลูกสาวพร้อมด้วยญาติได้หนีไปขออาศัยกับคนงานไทยที่ทำงานที่นั้น อยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน จนลูกสาวโทรมาบอกว่า มีอาการป่วย ปวดหัวมาก เพื่อนต้องส่งตัวไปโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับรักษาเนื่องจากว่าไม่มีเอกสาร จึงพาตัวกลับหอพัก และบอกให้ทางไปแจ้งสถานฑูตเพื่อให้ไปแจ้งตำรวจจับลูกสาวจะได้โดนส่งตัวกลับไทย จนวันที่ 11 มกราคม เพื่อนลูกสาวโทรมาบอกว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ และเพื่อนลูกสาวได้ข่มขู่ขอค่าใช้จ่าย 36,000 บาท จากนั้นตนเองได้ไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรม จ.เลย ให้ช่วยเหลือ และประสานไปยังสถานทูตไทย และเมื่อเช้าเพื่อนลูกก็โทรมาบอกว่า ไม่เอาเงินแล้ว

นายวัฒนศักดิ์ พลซา ลูกชายของนางสุฐิตา เล่าว่า คนที่อยู่กับแม่เอามือถือแม่โทรมาหา บอกว่าป่วยเหมือนคนบ้า ไท่รู้สึกตัว พยายามเรียกร้องเงินจากที่บ้านเป็นเงิน 36.,000 บาท ไม่มั่นใจว่าหาเงินมาแล้วโอนไปให้แม่จะได้รักษาไหม กลัวว่าโอนเงินจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะเป็นโทรศัพท์ของแม่ จนกระทั่งมี จนท.จากสถานทูตญี่ปุ่นบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่โรงพยาบาล จึงขอผลชันสูตรพลิกศพแม่ แต่ทาง จนท.บอกว่าเดียวโทรติดต่อกลับมาอีกครั้ง ซึ้งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนคนที่อยู่กับแม่ก็เอามือถือ เฟสบุ๊ก ไปโพสต์ต่อว่าคนในบ้าน จะขอเงินค่าดำเนินการช่วยเหลือแม่ ทั้งหมดก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะไม่รูปถ่ายของแม่ที่เสียชีวิตเลย จึงออกมาร้องสื่อให้ช่วย เชื่อว่าการเสียชีวิตของแม่ต้องมีเงื่อนงำ ถ้าแม่เสียชีวิตจริงๆ ก็อยากให้ทางสถานทูตช่วยส่งศพแม่กลับมาที่บ้านด้วย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด เลย รายงาน