
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ยื่นสอบมรรยาท ทนายวิฑูรย์ หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณทนายความ
วันนี้ 7 มกราคม 2568 ที่สภาทนายความฯ กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจาก บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เดินทางมาที่สภาทนายความเพื่อยื่นสอบมรรยาท นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ พอล หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณของทนายความ
นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบพฤติกรรมของนายวิฑูรย์ มีการให้สัมภาษณ์ลักษณะคล้ายกับข่มขู่ผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้เข้าแจ้งความ อีกทั้งยังบอกว่าสาเหตุที่กลุ่มผู้เสียหายไม่สามารถขายของได้มาจากความไม่ขยัน ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายและตัวเองยืนยันว่าที่ผ่านมาได้พยายามขายสินค้ามาโดยตลอดแต่ก็ยังขายไม่ได้ ซึ่งการกระทำของทนายวิฑูรย์ ส่วนตัวมองว่ามีลักษณะคล้ายกับผิดจรรยาบรรณ จึงต้องการจะยื่นสอบมรรยาท เพื่อให้ถอดถอนนายวิฑูรย์จากการเป็นทนายความ
นอกจากการยื่นสอบมรรยาทแล้ว ตัวเองจะมีการแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดตตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และฟ้องร้องทางแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กับทนายวิฑูรย์ด้วย รวมถึงจะแจ้งความนายวรัตน์พล เกี่ยวกับประเด็นการละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย PDPA
ด้านผู้เสียหายระบุว่าตัวเองเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่อยากมีอาชีพ ได้เห็นโฆษณาผ่านในสื่อโซเชียลมีเดียมีราคาเพียง 98 บาทจึงสนใจ และได้สมัครคอร์สไป ก่อนจะมีคนมาสอนวิธีการให้หาคนเข้ามาร่วมธุรกิจ ภายหลังตัวเองได้มีการเพิ่มจำนวนเงินในการสมัครคอร์สต่อไปอีกเป็นราคา 2,500 บาท 25,000 บาท และ 250,000 บาทตามลำดับ ซึ่งเงินจำนวน 250,000 บาทนั้น ตัวเองได้นำโฉนดที่ดินบ้านไปจำนอง ทำให้ตัวเองได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 700,000 บาท แต่ภายหลังจากลงทุนไปกลับได้รับค่าตอบแทนกลับคืนมาเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน