กระบะเสียหลักชนท้ายบรรทุก18 ล้อ บาดเจ็บ 1ราย เสียชีวิตคาซาก 1 ราย

กระบะเสียหลักชนท้ายบรรทุก18 ล้อ บาดเจ็บ 1ราย เสียชีวิตคาซาก 1 ราย

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2568 พันตำรวจตรี ธนโชติ เล้าพูนผล สารวัตรสอบสวนสภ.บางโทรัด ได้รับแจ้งมีรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ในรถ บริเวณกม.ที่ 43+700 เลยจุดกลับรถเอกโฮดิ้ง ขาออกสมุทรสงคราม ตำบล กาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อรับแจ้งจึงได้ประสานรถอุปกรณ์ตัดถ่างและรถกู้ภัย ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร รถกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลมหาชัย 1 โรงพยาบาลเจษฎาฯร่วมเดินทางไปในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซุซุ ดีแม็คสีบรอน หมายเลขทะเบียน  บฉ – 8748 สมุทรสงคราม สภาพรถหมุนอยู่กลางถนน กระจกหน้าหลังแตก ด้านหน้ารถฝั่งคนขับยุบมีเศษซากและล้อรถเกลื่อนถนนล้อหน้าด้านขวาแม็กแตก และมีล้อรถตกกระจายพื้นถนน

ตรวจสอบภายในรถฝั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นชายหนึ่งราย ในเบื้องต้นเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ ประมาณ 27 ปี ติดอยู่ในซากรถบริเวณเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 30 นาที จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ และยังมีผู้บาดเจ็บเป็นชายที่นั่งมากับรถคันดังกล่าวอีก 1 ราย รถกู้ชีพมหาชัย 1 ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศล้าสมุทรสงคราม ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถบรรทุก 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่  71- 3860 เพชรบุรี ตัวพ่วง  71 – 3861 เพชรบุรีจอดอยู่ช่องเลนกลางของถนน สภาพด้านท้ายรถด้านซ้ายยุบล้อกระทะบิดจนยางหลุดออกไปและจากการสอบถามนาย เกรียงศักด์ เพ็งดี อายุ 27 ปี คนขับรถบรรทุก 18 ล้อ เล่าให้ฟังว่าตนเองได้กลับรถบริเวณจุดกลับรถใกล้กลับที่เกิดเหตุได้ครึ่งเลนเกือบจะเต็มถนนแล้วพอมองกระจกหลังก็เห็นรถกระบะมาเร็วจึงทำให้ชนด้านท้ายรถอย่างจังจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นตนจึงได้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทันที

ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไว้และสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์และคนขับขี่รถบรรทุกฯไว้เบื้องต้นก่อนจะได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร นำร่างของผู้เสียออกมาและให้รถยกนำรถที่เกิดเหตุออกจากช่องจราจรให้ใช้ได้ตามปกติ และเชิญคนขับรถบบรทุกมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.บางโทรัดอีกครั้ง ส่วนศพของผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำร่างชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวชโรงพยาบาลสมุทรสาคร และจะได้มอบศพให้ญาตรับไปประกอบประเพณีตามศาสนาก่อนจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสมุทรสาคร รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ