กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ชยเชษฐ์ อิทธิยาภรณ์ สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.,ร.ต.อ.สิงห์โรจน์ สืบส่ง,ร.ต.อ.บัณฑิต นวลปาน, ร.ต.อ.อุดมศิลป์ ลีลาสมฤกษ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล., ร.ต.ต.จิโรภาส นวลสันเทียะ, ร.ต.ต.ภานุมาศ  คูหา ,ร.ต.ต.มงคล เทพวงษา รอง สว(ป).ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม Mr.Marcus อายุ 29 ปี  สัญชาติ สวีเดน  เชื้อชาติ เกาหลี ฐานความผิด ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์ ของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์  จำนวน   1  คัน

สถานที่จับกุม  ถนนทางหลวงหมายเลข 36 กม.8+200 (มุ่งหน้าจังหวัดระยอง) ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งเอาไม้ไล่ตีรถยนต์ที่ใช้ทางบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 จำนวนหลายคัน

จึงแจ้งให้รถวิทยุตรวจการณ์ตำรวจทางหลวงเข้าตรวจสอบเมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบชายคลุ้มคลั่งกำลังขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ของพลเมืองดีที่จอดให้การช่วยเหลือผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์กระบะ โดยชายคลุ้มคลั่งดังกล่าวได้นำไม้ทุบตีรถคันดังกล่าวได้รับความเสียหาย แล้วอาศัยจังหวะขึ้นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ หลบหนีไปบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 โดยมีรถวิทยุตำรวจทางหลวงไล่ติดตามไป ต่อมาชายดังกล่าวได้ขับหลบหนีออกจากถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เข้าถนนทางหลวงหมายเลข 36 ถึงบริเวณ กม.8+200 (มุ่งหน้าระยอง) และเสียหลักชนการ์ดเรลล์พลิกคว่ำ  เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ควบคุมตัวชายดังกล่าวไว้ โดยตรวจพบว่าชายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง และสอบถามเบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้และไม่มีเอกสารประจำตัว ต่อมาเมื่อชายดังกล่าวได้สติให้การวกวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งผู้ถูกจับว่าจะต้องถูกจับพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายของผู้ถูกจับให้ทราบและได้ทราบภายหลังว่าชื่อMr.Marcus สัญชาติ สวีเดน  เชื้อชาติ เกาหลี  เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาไม่ให้การเพิ่มเติม และไม่ร้องขอล่ามแปลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป  

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน