
แม่ค้าปูไข่ ร้องถูกมิจฉาชีพ สั่งอาหารผ่านไลน์มา ยอดแค่ 8 ร้อยกว่าบาท แต่ไปหลอกให้คนอื่นโอนเงินมาจ่าย สุดท้ายบัญชีโดนอายัด
วันนี้ 29 ธันวาคม 2567 นางสาวพรชนก พันธ์ทา อายุ 26 ปี และ นายศิววงศ์ ประสงค์ผล อายุ 25 ปี สองคู่รัก ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ทั้งคู่มีอาชีพขายปูไข่ โดยขายทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งปกติแล้วจะมีการโพสต์ขายผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ซึ่งในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ก็โพสต์ขายตามปกติ และปรากฏว่า มีลูกค้าทักเพจเฟซบุ๊กมาซื้อปูไข่ เป็นเงินจำนวน 867 บาท กระทั่งลูกค้าส่งสลิปโอนเงินมาให้ดูว่าโอนเงินค่าปูไข่มาจำนวน 870 บาท ซึ่งในตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้เอะใจอะไร และทางลูกค้ามีการถามตนเองว่ายอดเงินที่โอนไปถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ได้แจ้งลูกค้ากลับไปว่าโอนเกินมา 3 บาท แต่ทางฝั่งของลูกค้าบอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นเมื่อตนเองจัดสินค้าเสร็จก็ได้เรียกไรเดอร์ ให้เข้ามารับสินค้า และนำสินค้าไปส่ง ที่บ้านของลูกค้าซึ่งอยู่ภายใน ซอยสายไหมสาม 37 ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ลูกค้าคนดังกล่าวให้มา ซึ่งในตอนนั้นก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้น
ปรากฏว่าในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ผู้หญิงทักข้อความทาง Line มาสอบถามตนเอง พร้อมกับส่งแชทข้อความและสลิปโอนเงิน มาให้ตนเองดู ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวได้สั่งซื้อเบาะรถจักรยานยนต์ โอนเงินผ่านบัญชีของตนเอง ยอดจำนวน 870 บาท เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวบอกกับตนเองว่ามีการแจ้งธนาคารให้อายัดบัญชีไปแล้ว และขอเงินที่โอนมาคืน พร้อมกับส่งใบแจ้งความมาให้
ตนเองดู ว่าเธอไปแจ้งความเอาไว้ที่ สน.เตาปูน ซึ่งทางฝั่งของตนเองพยายามชี้แจงกับผู้หญิงคนดังกล่าวว่ามีเงินโอนเข้ามาที่บัญชีของตนเองจริง 870 บาท แต่เป็นค่าปูไข่ที่ตนเองขาย และได้ส่งแชทหลักฐานที่ลูกค้าพิมพ์มาสั่งปูไข่ให้กับผู้หญิงคนดังกล่าวดู จากนั้นตนเองและแฟนจึงเดินทางไปที่ สน.เตาปูน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และนำแชทหลักฐานต่างๆไปให้แก่พนักงานสอบสวน พร้อมกับลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานว่าตนเองก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ
และขณะนี้ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว และเพิ่งมาทราบว่าลูกค้าคนที่ทักมาซื้อปูไข่นั้น เป็นมิจฉาชีพ ที่ไปหลอกขายสินค้า และให้คนอื่นโอนเงินมาจ่ายค่าปูไข่แทน
หลังเกิดเหตุตนเองยังไม่ได้ไปตรวจสอบตามพิกัดที่ลูกค้าให้ไปส่งปูไข่คือ ซอยสายไหม 37 แต่พยายามที่จะทักไปสอบถามลูกค้าที่ทักมาซื้อปูไข่ แต่ปรากฏว่าถูกลูกค้าคนดังกล่าวบล็อคเฟซบุ๊กไปเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็มีลูกค้าทักมาสั่งปูไข่ และให้เรียกไรเดอร์ไปส่งภายในซอยสายไหม 37 เช่นเดียวกัน เมื่อตนเองมาตรวจสอบสลิปที่ลูกค้าส่งมาให้ย้อนหลัง ก็พบว่า ชื่อของคนที่โอนเงินมาให้ก็ไม่ตรงกับชื่อเฟซบุ๊กที่มาสั่งสินค้าร้านตนเอง และถูกลูกค้าบล็อกเฟซบุ๊กไปเช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองตั้งข้อสันนิษฐานว่ามิจฉาชีพน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
ตนเองไม่ได้กังวลใจกับเรื่องคดีความมากนัก เพราะมีหลักฐานที่จะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ใจได้ว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็อยากเตือนไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของผ่านออนไลน์ ให้มีการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน จะได้ไม่ตกเป็นผู้เสียหายแบบที่ตนเองและแฟนโดน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน