DSI ส่งฟ้องคดีแชร์ลูกโซ่ IQ Option หลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจ forex ความเสียหายกว่า 256.8 ล้านบาท

DSI ส่งฟ้องคดีแชร์ลูกโซ่ IQ Option หลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจ forex ความเสียหายกว่า 256.8 ล้านบาท

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดำเนินคดีอาญากับ บริษัทสุชาตา จำกัด โดยนางสาวสุชาตา หรือลีอาห์ (สงวนนามสกุล) กับพวก ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ได้ร่วมกันประกาศโฆษณาให้ปรากฏแก่ประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆว่าผู้ต้องหากับพวกมีความเชี่ยวชาญในการเทรดสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) และเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาฝากพวกของตน เพื่อร่วมลงทุนเทรดสกุลเงินต่างประเทศ (forex) ผ่านโปรแกรม IQ Option ของกลุ่มผู้ต้องหา ให้โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 240 – 540ซึ่งเป็นความเท็จเนื่องจากกลุ่มของผู้ต้องหามิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน และไม่เคยประกอบธุรกิจเทรดสกุลเงินต่างประเทศตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

บัดนี้ การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พบมูลค่าความเสียหายกว่า 256.8 ล้านบาท จึงสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่พบพฤติการณ์กระทำความผิด จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทสุชาตา จำกัด นิติบุคคล โดย นางสาวสุชาตา หรือลีอาห์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 1 นางสาวสุชาตา หรือลีอาห์ (สงวนนามสกุล)   ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 นางธานิยา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 3 และ นางสาววณิชาภัทรฯ ผู้ต้องหาที่ 4 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , โดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนรวมทั้งร้องขอให้พนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้เรียกทรัพย์สินและเงินต้นหรือใช้ราคาแทนความเสียหายจากผู้ต้องหา ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 9 ด้วย และจะนำส่งความเห็นทางคดีพร้อมสำนวนการสอบสวน ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ต่อไป

อนึ่ง คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและทางการประเทศอินโดนีเซีย ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีไปพักอาศัยที่ประเทศอินโดนีเซีย คือ นางสาวสุชาตา หรือลีอาห์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 2 และนางธานิยา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 3 นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และได้ตัวมาดำเนินคดีเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้รับผิดชอบสอบสวนคือ นางสาวปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 และคณะพนักงานสอบสวนของส่วนดังกล่าว” พันตำรวจตรี วรณัน  ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กล่าว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ