ผู้บัญชาการไซเบอร์ขานรับนโยบายกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป พร้อมเปิดตัวแคมเปญ ปีใหม่ ไร้มิจ (ฉาชีพ) ชวนติดตั้ง Cyber Check สืบค้นจนไม่เอ๊ะ หากเจอปุ๊บ รีบแจ้งความปั๊บ

ผู้บัญชาการไซเบอร์ขานรับนโยบายกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป พร้อมเปิดตัวแคมเปญ ปีใหม่ ไร้มิจ (ฉาชีพ) ชวนติดตั้ง Cyber Check สืบค้นจนไม่เอ๊ะ หากเจอปุ๊บ รีบแจ้งความปั๊บ

วันนี้ 25 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยในระหว่างการช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยว่า จะกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปและมีข้อมูลว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ตึก 25 ชั้นที่ตั้งอยู่ในปอยเปต ประเทศกัมพูชา เป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดยกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับข้อมูลที่ทางตำรวจไซเบอร์มี ไม่ว่าจะเป็นมาจากการสืบสวนสอบสวนทางคดีและมาจากคำให้การของผู้ต้องหาในหลายคดี โดยผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพว่า ตึก 25 ชั้นดังกล่าว คือฐานปฏิบัติการที่ให้บรรดาบัญชีม้าทั้งหลายมาสแกนหน้าเปิดบัญชีม้าและตึกดังกล่าวยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าในคดีของนางงามชาล็อตและเหยื่ออีกกว่า 125 รายที่ถูกหลอกในลักษณะพฤติการณ์เดียวกัน รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับอีกหลายคดี

ซึ่งขณะนี้ ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อพูดคุยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อบูรณาการแผนที่จะสกัดและจัดการบรรดาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ เพราะเนื่องจากเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร จึงต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการกลุ่มดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงประเด็นที่มีกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนมาตั้งฐาน Simbox เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะเข้าไปร่วมดำเนินการตรวจสอบว่า บรรดาซิมโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดได้เกี่ยวข้องกับคดีและผู้เสียหายรายใดบ้างและเป็นคนไทยหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าหลอกลวงคนที่อยู่ในประเทศไทย ก็จะถือเป็นการกระทำในราชอาณาจักร สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ทันที

แต่ถ้าหากพบว่ามาตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทยเพื่อหลอกลวงคนชาติอื่นนอกราชอาณาจักร ก็จะประสานขอข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูตของสัญชาติเหยื่อนั้น ๆ เพื่อดำเนินการกวาดล้างจับกุมหากมีหลักฐานแน่ชัด เพราะถือว่าเป็นการกระทำความผิดฐานเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนผู้ร่วมขบวนการหากไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ก็จะประสานให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองผลักดันออกนอกประเทศ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังได้ระบุถึงกรณีที่มีคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับคดีการฆาตกรรม สจ.โต้ง ที่ จ.ปราจีนบุรี โดยอ้างว่ามีเว็บพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของคดีฆาตกรรมนั้น ตำรวจไซเบอร์ไม่ได้รับผิดชอบคดีดังกล่าวโดยตรง แต่ในเรื่องเว็บพนันนั้น ได้สั่งการให้ ผบก.สอท.2 หรือตำรวจไซเบอร์ 2 เข้าไปตรวจสอบในเรื่องของเว็บพนันดังกล่าวแล้วว่ามีจริงหรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวตั้งแคมเปญ "ปีใหม่ ไร้มิจ (ฉาชีพ) ชวนติดตั้ง Cyber Check สืบค้นจนไม่เอ๊ะ! หากเจอปุ๊บ รีบแจ้งความปั๊บ

โดยสืบเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปหาครอบครัว ญาติ พี่น้อง เพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันและพบปะสังสรรค์ แต่อาจไม่รู้เลยได้เลยว่า ได้พามิจฉาชีพกลับบ้านหรือไม่ หรืออาจมีญาติพี่น้องของที่บ้านกำลังคบหากับมิจฉาชีพออนไลน์อยู่ เพราะปัจจุบัน อาจมีมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์แฝงตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของเราตลอดเวลา

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจไซไซเบอร์ จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบตนเองและคนในครอบครัวว่ากำลังสื่อสาร เข้าร่วมแพลตฟอร์ม โอนเงิน หรือกำลังจะโอนเงินให้มิจฉาชีพเหล่านี้อยู่หรือไม่ ด้วยกลอุบายต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพได้สรรหาวิธีมาหลอกลวง เช่น หลอกขายของออนไลน์ หลอกลงทุน หลอกให้ทำงานออนไลน์โดยอ้างว่ารายได้ดี หลอกให้กู้เงิน เป็นต้น ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัว ก็โอนเงินจนหมดเนื้อหมดตัว หรือหยิบยืมเงินใครไม่ได้แล้ว

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลับบ้านในช่วงปีใหม่ 2568 ไปช่วยรณรงค์คนในครอบครัวให้ระมัดระวังภัยมิจฉาชีพออนไลน์ รวมทั้งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Cyber Check ซึ่งแอพดังกล่าวจะช่วยตรวจสอบว่า บุคคลที่คุยด้วยนั้นเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ โดยจะตรวจสอบทั้งทาง Facebook // Line // เว็บไซต์ // เบอร์โทรศัพท์ // ไปจนถึงการตรวจสอบเลขบัญชีที่กำลังจะโอนเงินว่าเป็นบัญชีม้าหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นมิจฉาชีพ จะได้รู้เท่าทันและนำไปแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ หรือระบบเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441

โดยแอพพลิเคชั่น Cyber Check นั้น มีฐานข้อมูลของมิจฉาชีพที่ได้รับการแจ้งความจากผู้เสียหายในระบบแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่เลขบัญชีคนร้ายกว่า 2.4 แสนบัญชี // เว็บไซต์ของมิจฉาชีพหรือต้องสงสัยจำนวนกว่า 3,000 URLs // รวมทั้งลิงค์เพจ / LINE / และ SMS ปลอมมากถึง 38,000 Link โดยขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมากถึง 83,000 เครื่อง สามารถแจ้งเตือนไปแล้วกว่า 21,000 บาทครั้ง

จึงเน้นย้ำกับประชาชนโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ฝากให้บรรดาเครือญาติครอบครัวหรือคนใกล้ชิดโหลดเพจดังกล่าว เพื่อช่วยกันเตือนภัยไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์ โดยต้องโหลดผ่าน App Store หรือ Google Play เท่านั้น อย่าหลงเชื่อและกดลิงค์โหลดแอพพลิเคชั่นเด็ดขาด รวมทั้งต้องหมั่นอัพเดทแอพพลิเคชั่นบ่อย ๆ เนื่องจากทางตำรวจจะคอยอัพเดทฐานข้อมูลของมิจฉาชีพใหม่ ๆ ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ทางตำรวจไซเบอร์รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนร่วมกันกดโกรธให้กับเพจปลอมหรือเพจมิจฉาชีพต่าง ๆ ใน Facebook โดยให้ประชาชนสังเกตว่า หากพบเพจ Facebook ที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลอกให้แจ้งความติดตามเงินคืนหรือหลอกเป็นภาคธุรกิจ เพื่อชักชวนลงทุนหรือซื้อขายสินค้าและบริการ ให้ช่วยกันกดโกรธ เพื่อเป็นการ Take Action เบื้องต้นกับบรรดาเพจปลอมเหล่านี้ ให้ประชาชนผู้ใช้บริการ Facebook รายอื่นได้รับทราบและรู้ว่านี่คือเพจปลอม อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด

ซึ่งที่ผ่านมานั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้จัดสายตรวจออนไลน์ตรวจสอบเพจปลอมและประสานงานกับทาง Facebook ดำเนินการปิดเพจปลอม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบันมาถึง 32,400 URLs หรือคิดเป็น 87% ของยอดที่ขอปิดเพจทั้งหมด

ดังนั้น จึงอาจจะยังมีเพจหลอกลวงประชาชนที่ยังไม่ถูกปิดหลงเหลือ เนื่องจากอยู่ในระหว่างกระบวนการปิดของ Facebook ที่ต้องใช้เวลา การที่ประชาชนช่วยกันกดโกรธนั้น จะเป็นการทำให้ประชาชนได้เห็นเบื้องต้นว่า เพจดังกล่าวผิดปกติและเป็นเพจปลอม เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งการกดโกรธนั้น แอดมินเพจจะไม่สามารถลบจำนวนยอดดังกล่าวได้ จึงจะเป็นการช่วยเตือนภัยประชาชนในเบื้องต้นได้อย่างดีระหว่างที่รอเพจดังเหล่านั้นถูกปิด

ด้าน พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. ให้ข้อแนะนำสำหรับพี่น้องประชาชนในการตรวจสอบเหตุปลอมเบื้องต้นว่า ส่วนใหญ่แล้วเพจปลอมจะถูกขึ้นต้นว่าได้รับการสนับสนุนหรือมีสปอนเซอร์ เพราะเนื่องจากเพจเหล่านั้น จะจ่ายเงินให้ Facebook หรือยิงแอดโฆษณา เพื่อให้ผู้ใช้บริการเห็นเป็นเพจแรก ๆ // อีกทั้งให้สังเกตอีกว่า หากเพจไหนมียอดกดโกรธที่โพสต์เยอะ ๆ และปิดกั้นไม่ให้แสดงความคิดเห็น แต่บังคับให้กดเพื่อส่งข้อความหาแอดมินโดยตรง รวมทั้งอายุของเพจปลอมที่สังเกตว่าจะเพิ่งเปิดมาไม่ถึงเดือนและยังซ่อนผู้จัดการเพจไม่ให้เห็นหรือแสดงว่าผู้จัดการเพจอยู่นอกประเทศไทย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า นี่คือเพจปลอมที่อาจจะมาหลอกลวงประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ