
เผาทำลายผลิตภัณฑ์สุขภาพของกลางที่มิใช่ยาเสพติดให้โทษ รวมมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้บูรณาการร่วมกัน เผาทำลายผลิตภัณฑ์สุขภาพของกลางที่มิใช่ยาเสพติดให้โทษ ครั้งที่ 15
วันที่ 23 ธันวาคม 2567 กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เผาทำลายผลิตภัณฑ์สุขภาพของกลางที่มิใช่ยาเสพติดให้โทษ ณ บริษัทอัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ จากปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาทิเช่น ยา อาหาร เครื่องสำอาง และเครื่องมือแพทย์ที่ผิดกฎหมาย จำนวน 219 คดี น้ำหนักกว่า 38,880 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จัดให้มีการเผาทำลายของกลางดังกล่าวในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ณ บริษัทอัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ จึงได้ จัดให้มีการเผาทำลายของกลางดังกล่าวเพื่อมิให้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหลุดรอดไปวางจำหน่ายในท้องตลาด จึงขอเตือนผู้บริโภคว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพไม่ว่าจะเป็น ยา อาหาร เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน ต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ต้องมีฉลากภาษาไทย และไม่หลงเชื่อโฆษณาที่หลอกลวง ไม่มีหลักฐานวิชาการ หรือผลการทดสอบประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุน เพราะไม่มีอาหารหรือเครื่องสำอางที่มีสรรพคุณรักษาโรคได้ ขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จ โฆษณาเกินจริง ทั้งนี้หากผู้บริโภคพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน